เสียงอหิงสาธรรม - กินเจเว้นกรรม
ข้าพเจ้าได้มาเห็นหนังสือ "เสียงอหิสาธรรม" เล่มนี้เข้าซึ่งพิมพ์มาจากฮ่องกง รู้สึกว่าผู้วาดภาพ วาดและบรรายาภาพได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นเห็นซึ้งถึงแห่งความทุกข์ทรมานของสัตว์โลกได้ อันจะเป็นปัจจัยเหตุบังเกิดจิตเมตตาสงสารขึ้น ฉะนั้นจึงเห็นว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นเครื่องตาเตือนใจ และบางทีอาจจะระงับการเข่นฆ่าสัตว์ได้ไม่มากก็น้อย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติต่อศีลข้อปาณาได้อย่างบริสุทธิ์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ศีลธรรมในข้อนี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จึงได้แปลออกเป็นภาษาไทยสำเร็จเป็นรูปเล่มนี้ขึ้นมา
มีนักปราชญ์ นักการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้ที่ทรงคุณวุฒิมากท่านด้วยกัน ต่างก็ลงความเห็นเป็นสักขีพะยานว่า พืชผักนั้นเป็นอาหารที่บริบูรณ์ด้วยธาตุบำรุงหล่อเลี้ยงร่างกาย สะอาดบริสุทธิ์ ไม่เป็นภัยต่อร่างกาย มีประโยชน์อย่างเอนกประการ จึงเป็นอาหารที่บำรุงหล่อเลี้ยงชีพมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ผู้ที่บริโรคแต่อาหารผักนั้น ก็จะเป็นผู้ที่มีร่างกายและจิตใจสุขสบาย มีอายุมั่นขวัญยืน เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่สกปรกแปดเปื้อนน่าพรั่นพรึงหวาดกลัว มิใช่เป็นอาหารที่จำเป็นแก่มนุษย์อย่างแท้จริง ซึ่งอาจจะนำเอาโรคร้ายที่น่ากลัวเข้ามาสู่ผู้บริโภคได้ และทั้งนี้มิได้ทำให้ร่างกายและจิตใจเป็นสุขสบายได้อย่างแท้จริงด้วย ฉะนั้นบรรดาท่านนักปราชญ์จึงได้พากันสนับสนุนแนะนำให้ชาวโลกเราเสพย์พืชผักผลไม้เป็นอาหาร
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปี่ยมล้นไปด้วยพระมหาเมตตาการุณธิคุณต่อเวไนยสัตว์ทั่วไป พระองค์ทรงถือว่าสัตว์โลกทั้งผองเป็นประดุจดั่งเอกภาพ แต่ละชีวิตมีค่ายิ่งนักซึ่งยากที่จะนำเอาสิ่งอื่นใดขึ้นมาพรรณาเปรียบเปรยเทียบเท่าได้ สัตว์โลกทั้งหลายมีความรักตัวกลัวตาย เกลียดความทุกข์รักความสุข ไม่ยอมให้ผู้อื่นใดมารักแกข่มเหง ถ้าแม้นว่าผู้อื่นใดมารักแกข่มเหง มันก็จะต่อสู้อย่างสุดความสามารถทีเดียว อันความสำนึกเช่นนี้นั้นมีอยู่ในสำนึกของสามัญสัตว์ทั่วไป ดังนั้น พระพุทธองค์จึงได้ทรงบัญญัติสิกขาข้อปาณาไว้พื่อคุ้มครองความสวัสดิภาพแห่งชีวิตทั้งมวล จะด้วยตนเองฆ่าก็ดี จะด้วยเสี้ยมสอนให้ผู้อื่นฆ่าก็ดี จะด้วยเห็นดีเห็นชอบในการฆ่าก็ดี ทั้งสามข้อนี้เป็นการกระทำที่ละเมิดผิดต่อพุทธสิกขาบัญญัติ ฉะนั้น ท่านผู้เจริญทั้งหลายควรละเว้นพฤติกรรมเหล่านี้เสีย
สำหรับภิกขุสามเณร จะบริโภคได้ก็แต่ติโกฎิปริสุทธิมังสะ ๑. ไม่ได้เห็น ๒. ไม่ได้ยิน ๓. ไม่ได้รังเกียจหรือสงสัย ด้วยเงื่อนไขสามประการนี้ ทางฝ่ายมหายานนิกายเห็นว่า การฉันเนื้อสัตว์ ยากต่อการระมัดระวัง ต่อพุทธบัญญัติทั้งสามข้อนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อสามยิ่งเป็นการยากต่อการระมัดระวังเพื่อเป็นการตัดต้นเหตุอันจะเป็นปัจจัยเกิดอาบัติบาป แก่ภิกขุสามเณรและทั้งไม่เป็นเวรแก่ผู้ที่มีศรัทธา คือ บุญก็ทำ กรรมก็สร้างฉะนั้น จึงได้นำเอาศีลพระโพธิสัตว์มาปฏิบัติ (ศีลพระโพธิสัตว์นี้ มีปรากฎในมหาสีหนาทสูตร เรียกว่า ตบศิลวัตต์) โดยไม่มีการเสพย์เนื้อเลยมาตรว่าภิกขุสามเณรไม่ฉันเนื้อ อาหารเนื้อที่วางขายในตลาดก็คงจะลดน้อยลงตามส่วน การฆ่าสัตว์ก็จะลดน้อยลงเป็นธรรมดา ทั้งนี้เป็นการยังชีวิตสัตว์ให้ยืนยาวนานตามกาลอายุของมันโดยทางอ้อมได้อย่างดีเลิศพร้อมทั้งเป็นการปลูกฝังเมตตาจิต และการเสริมสร้างบุญบารมีไปในตัวด้วย
มนุษย์เราเสพย์เนื้อสัตว์จนเคยชินเป็นนิสัย การที่ปุบปับจะมา งดเว้นไม่เสพย์เนื้อเสียเลยนั้น ก็ย่อมจะเป็นการยากอยู่ แต่ก็ไม่เป็นการยากสำหรับผู้ที่มีความเพียรตั้งใจปฏิบัติ ข้าพเจ้าใคร่ขอแนะนำแต่ท่านพุทธมามกชนทั้งหลายว่า วันพระอุโบสถ วันสำคัญต่างๆ แห่งพระพุทธศาสนา หรือวันที่ท่านจะประกอบพิธีกรรมต่างๆ ทางพระพุทธศาสนาก็ตาม ควรจะปฏิบัติมังสวิรัติ เพราะว่าวันเหล่านี้เป็นวันที่ชาวพุทธบริษัทเราทั้งหลายจะต้องสมาทานศีล ตั้งจิตตั้งใจประกอบบุญประกอบกุศลเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขความเจริญรุ่งเรืองแก่อนาคต ฉะนั้นขอวิงวอนชาวพุทธบริษัทเราทั้งหลาควรใช้สติปัญญาใคร่ครวญพิจารณามหาพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน การที่ได้สมาทานศีลจากพระสงฆ์องค์เจ้าแล้ว ก็ควรจะปฏิบัติต่อศีลให้เคร่งครัดบริสุทธิ์ โปรดอย่ามองข้าม การละเมิดผิดศีลข้อนี้นั้น จะเป็นการสูญเสียซึ่งเมตตาจิต เมื่อท่านปฏิบัตินานๆ เข้า ความเคยชินก็จะย่างเข้ามาแทน เมื่อความเคยชินย่างเข้ามาแทน ความมีใจเมตตากรุณา และความรู้สึกผิดชอบก็จะบังเกิดขึ้น การเสพย์เนื้อสัตว์ก็จะเกิดการเบื่อหน่าย เกิดการหวาดกลัวเวรภัยที่จะอุบัติขึ้นอันเนื่องมาจากการเสพย์เนื้อสัตว์ ในที่สุดท่านก็จะงดเว้นการเสพย์เนื้อสัตว์ได้เอง
ที่สุดนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอานิสงส์แห่ง การจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้เป็นธรรมบรรณาการจงเป็นพลาปัจจัย อำนวยให้ผู้ที่มีศรัทธาร่าวมอนุโมทนาในการจัดพิมพ์ ตลอดจนทุกๆ ท่าน จงปราศจากทุกข์ โศกโรคภัย อันตรายใดๆ ทั้งปวง อนึ่ง ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย จงบริบูรณ์เพียบพร้อมด้วยสามัคคีธรรม ยึดมั่นในพระบวรพุทธศาสนา บำเพ็ญสำเร็จธรรมประโยชน์ตลอดจนบรรลุถึงพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เทอญฯ
เย็นเท้ง ภิกขุ
...................................................................................................................................................................
เสียงอหิงสาธรรม
ผู้แปล เย็นเท้ง ภิกขุ บทกลอนโดย ประภาพรรณ เสน่ห์มิตร
๑. เวไนย์คือเรา เราคือเวไนย์
สุกรและ มนุษย์นี้ มีชีวิต
ถูกลิขิต จากกรรม ที่ทำไว้
มีเจ็บปวด มีกลัวตาย มีจิตใจ
เหตุไฉน จึงประหาร ทุกวารวัน
เป็นอาหาร ของมนุษย์ สุดอร่อย
เพื่อบำรุง น้ำย่อย ชางหฤหรรษ์
เป็นร้อยพัน สรรมาฆ่า พารวยกัน
แต่กรรมนั้น ใครได้รับ ไว้กับตน
ยามสิ้นชีพ ทรมา หน้าอดสู
ต้องมาร้อง เสียงเหมือนหมู ดูสับสน
มีสภาพ คล้ายสัตว์ ไม่เหมือนคน
กรรมให้ผล ในชาตินี้ นี่ของจริง
๒. รักสัตว์ ไยจึงกินเนื้อสัตว์
สุกรไก่ แพะโค กุ้งเป็ดปลา
ต่างต้องมา เป็นอาหาร รับทานสิ้น
สัตว์ทั้งหลาย ถูกฆ่าตาย กายถมดิน
ช่างชาชิน กินเลือดเนื้อ ไม่เบื่อกัน
คนกับสัตว์ มีชีวิต รักชีวี
ต่างก็มี ความรู้สึก มีโศกศัลย์
เปลี่ยนพฤติกรรม การกิน เสียใหม่พลัน
รับทาน มังสวิรัติกัน ไม่ก่อเวร
๓. ค่ำคืนอันเงียบเหงา
ทุกราตรี มีไก่ขัน กันเซ็งแซ่
ช่างเงียบแท้ ตีห้า พาเปล่าเปลี่ยว
เจ้าคงเลือดนอง เปื้อนมีด พันเล่มเที่ยว
เขาคงเคี้ยว แกล้มสุรา พาเพลิดเพลิน
เป็นเพราะว่า คืนนี้ ส่งปีเก่า
สังหารเจ้า ทุกครัวเรือน ไม่ขัดเขิน
ชีวิตสัตว์ น่าสงสาร เสียเหลือเกิน
เพราะบังเอิญ คนเห็น เป็นธรรมดา
ถ้ามนุษย์ หยุดฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต
เปลี่ยนความคิด ที่ผิด กันทั่วหน้า
รับทาน มังสวิรัติ ชั่วชีวา
มีศีลห้า บริสุทธิ์ หยุดสร้างกรรม
๔. ขนของแม่
แม่เพิ่งคลอด ลูกนี้ สี่ชีวิต
คนอำมหิต ปลิดชีวี แม่ดับสิ้น
เหลือแต่กอง ขนไก่ บนพื้นดิน
ลูกจำกลิ่น แม่ได้ ไม่คลายจาง
ต่อนี้ไป จะมีใคร กางปีกปก
ลูกมีอก แม่อุ่น ไม่เคยห่าง
โอ๋แม่จ๋า ลูกมีแม่ เคยนำทาง
ลูกอ้างว้าง เพราะใครหนอ เขาก่อเวร
๕. โอ้ลูกจ๋า
โอ้ลูกแม่ อยู่ไหน ใครรู้บ้าง
แม่อ้างว้าง ว้าเหว่ ถวิลหา
เคยกกไข่ ด้วยยินดี เสมอมา
อนิจจาเขา เอาไปกิน กันอิ่มใจ
เห็นเปลือกไข่ จำได้ ใช่ลูกฉัน
ทุกคืนวัน เคยกอดกก และชิดใกล้
มีมือมาร ประหารลูก จากแม่ไป
มนุษยธรรม อยู่ที่ไหน ช่วยบอกที
๖. ทุกข์ทรมานจนตาย เหตุแห่งภัยพิบัิติ
ความเจ็บปวด รวดร้าว ถูกเชือดคอ
จะร้องขอ ความปราณี ได้ที่ไหน
ต้องด่าวดิ้น หลายนาที จึงสิ้นใจ
โอ้เป็ดไก่ ยามถูกเชือด เลือดไหลนอง
ช่างเป็นภาพ ที่เวทนา น่าเศร้านัก
โปรดตระหนัก ภาพพจน์ สยดสยอง
เมื่อรับประทาน สัตว์ทุกครั้ง ควรตรึกตรอง
เขาทั้งหลาย คือพี่น้อง ร่วมโลกเรา
๗. ได้โปรด! ไว้ชีวิตฉันเถิด เสียงร้องขอชีวิต
เสียงทอดถอน โทมนัส พ่อโคเฒ่า
นั่งคุกเข่า วอนเพชรฆาต ขอชีวิต
มีดขาววับ ระดับคอ รอชีพปลิด
ใจดวงจิต ปวดร้าว น้ำตาริน
เคยรับใช้ ไถนา มานาปี
ไม่เคยมี ความชอบ ช่างลืมสิ้น
ต้องถูกฆ่า เป็นอาหาร ให้เขากิน
ชั่วชีวิน วัวควาย อาหารคน
๘. รู้คุณไม่เบียดเบียน
คนในภาพ เป็นชาวนา กัลยาณจิต
ชั่วชีวิต มีสัจจะ จิตใจสูง
มีเมตตา กรุณา คอยชักจูง
ใจนั้นมุ่ง แทนพระคุณ การุนธรรม
เมื่อเยาว์วัย ได้อาศัย ดื่มนมโค
ยามเติบโต เลี้ยงไว้ ให้อิ่มหนำ
อันโคนี้ เคยใช้งาน อย่างตรากตรำ
ถึงแก่เฒ่า ก็ไม่นำ ไปฆ่ากิน
เขาเข้าใจ ในหลัก กฎแห่งกรรม
ไม่กระทำ ชั่วซ้ำ ให้ผิดศีล
เขารับทาน มังสวิรัติ เป็นอาจิณ
ชั่วชีวิน กตัญญู รู้พระคุณ
๙. ลูกรักจ๋า! แม่ลาก่อน
ภาพแม่แพะ ถูกจูง ไปเข่นฆ่า
เหมือนรู้ว่า ต้องพราก จากลูกขวัญ
แม่กับลูก ต่างมองหน้า กันและกัน
ต่างโศกศัลย์ เศร้านัก ความรักเรา
แม่จ๋าอย่าไป อย่าไป ให้เขาฆ่า
จงกลับมา อยู่กับลูก ให้คลายเหงา
ในที่สุด แม่ต้องไป จากพวกเรา
เป็นเรื่องเศร้า พลัดพราก ตายจากกัน
ถ้ามนุษย์ หยุดฆ่า หยุดรับทาน
คงไม่ต้อง ถูกประหาร อย่างหฤหรรษ์
คงไม่ต้อง เห็นภาพ บาดชีวัน
ด้วยยึดมั่น ศีลข้อหนึ่ง พึงจงจำ
๑๐. อาลัยเจ้าเพื่อนยาก
โอ้เพื่อนเอ๋ย เคยเห็น ทุกเย็นค่ำ
ฉันเคยนำ เอาหญ้า มาเลี้ยงเจ้า
เจ้าแพะน้อย ตัวนิด เพื่อนชิดเรา
เคยคลอเคล้า เคลียขา พากันเดิน
เราคือเพื่อน รู้ใจ กันนานปี
คงไม่มี ใครมาพราก ให้ห่างเหิน
เคยวิ่งเล่น ทุกเย็นเช้า อย่างเพลิดเพลิน
ช่างบังเอิญ มีเหตุการณ์ ประหารใจ
อนิจา เจ้าโดนฆ่า คอถูกเชือด
เห็นกองเลือด และศพเจ้า เศร้าไฉน
เจ้าต้องกลาย เป็นอาหาร ทำทานไป
ตั้งสัจจะไว้ ไม่กินเจ้า เราเพื่อนกัน
๑๑. น้ำมือคน
เกล็ดของปลา เปรียบเสมือน เล็บมนุษย์
ถ้าเล็บหลุด สุดเจ็บปวด อย่างมหันต์
ต้องหาหมอ ทำแผล ดูแลกัน
แต่สัตว์นั้น ไม่มีปัญญา รักษาตน
เราขอดเกล็ด ปลาเป็น เห็นธรรมดา
แต่อนิจา หารู้ไม่ เขาเจ็บล้น
ต้องเกลือกกลิ้ง ดิ้นหนี น้ำมือคน
สุดจะทน ภาพเช่นนี้ มีทุกวัน
ถ้ามนุษย์ หยุดทำร้าย ทำลายสัตว์
โลกคงจัด อยู่ในทาง ที่สร้างสรรค์
ยึดมั่น อยู่ในศีล ชั่วชีวัน
รับทาน มังสวิรัติกัน ทั้งครอบครัว
๑๒. ลานประหาร
สัตว์น้ำ ทุกชีวิต ถูกปลิดชีพ
ต่างก็รีบ เอาตัวรอด ดิ้นรนหนี
มีดฟันขาด สองท่อน ยังอยู่ดี
แหวกว่ายหนี มือมาร กลัวการตาย
บางชีวิต นำไปทอด ในกระทะ
ก็ยังจะ ดิ้นได้ น่าใจหาย
เขารักชีวี หวงชีวิต ห่วงร่างกาย
โปรดละอาย อย่าฆ่าสัตว์ วิรัติกรรม
๑๓. เสียงแห่งความพลัดพราก จากกันชั่วนิรันดร์
ยามสายัณห์ ตะวันรอน จวนกลับมา
เจ้าปักษา ผัวเมีย บินเริงร่า
ช่างไม่รู้ อันตราย ติดตามมา
ต่างปรารถนา ในรัก สลักใจ
ธนูพิษ มือเพชฌฆาต บังอาจนัก
มาพรากรัก พวกเรา เศร้าไฉน
เสียงบอกเจ้า บาดเจ็บ จนขาดใจ
เสียงร่ำไห้ พี่จ๋า น้องลาที
๑๔. แม่ใกล้จะกลับแล้ว
สิ้นเสียงปืน ดังลั่น สนั่นป่า
ถูกแม่นก ตกลงมา ชีวาสิ้น
เหตุมัวมอง หาเหยื่อ เพื่อลูกกิน
กายพังภินท์ เพราะมนุษย์ สุดบรรยาย
แสนสงสาร ลูกนกน้อย เฝ้าคอยแม่
ต่างชะแง้ ชูคอร่อน รอรอหาย
พี่ปลอบน้อง อย่าร้องไห้ ใจวุ่นวาย
ตอนสายสาย แม่คงกลับ รับขวัญเรา
โปรดยุติ การสร้างกรรม และทำร้าย
สัตว์ทั้งหลาย คงเป็นสุข ไม่โศกเศร้า
ช่วยพิทักษ์ รักสัตว์ด้วย สองมือเรา
คนรุ่นเยาว์ คงเอาอย่าง ในทางดี
๑๕. เพชฌฆาตเลือดเย็น นักฆ่ามืออาชีพ
ผ้าต่วนแพร ต่างถักทอ ด้วยใยไหม
เราสวมใส่ ด้วยนิยม สมศักดิ์ศรี
ถ้าจะคิด ให้ลึกซึ้ง คงทราบดี
ผ้าสวยนี้ กรรมวิธี มีเช่นไร
เขาใช่ไหม มีชีวิต ใส่หม้อต้ม
สัตว์ตายล้ม เพราะแพรพรรณ อันสดใส
ต้องพลีชีพ เพื่อความนิยม ให้สมใจ
โปรดคิดใหม่ ใช้ใยรัก ถักทอแทน
๑๖. มนุษยธรรม ชีวิตใคร ใครก็รัก
กิเลน สัตว์โบราณ จิตเมตตา
มักกรุณา สัตว์ตัวน้อย อยู่เสมอ
ยามเดินไป ในถนน ได้เจอะเจอ
เขาไม่เผลอ เหยียบตาย ให้วายปราณ
มนุษย์เรา ยกตน เป็นคนฉลาด
เหตุไฉน จึงพิฆาต อย่างอาจหาญ
มนุษยธรรม นั้นอยู่ไหน ใครต้องการ
โปรดไขขาน คำตอบ จะขอบคุณ
๑๗. เห็นผิดเป็นชอบ ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่ง "การฆ่า"
พวกเด็ก ไร้เดียงสา ทรมานสัตว์
ชอบใช้พัด ตบตี พวกผีเสื้อ
แม้หิ่งห้อย ตัวเล็ก ตายเป็นเบือ
เขาไม่เชื่อ บาปเวร เพราะเยาว์วัย
่พ่อแม่ ควรสอนลูก ปลูกความคิด
ให้มีจิต เมตตา อย่าสงสัย
สัตว์ทั้งหลาย รักชีวี ล้วนหนีภัย
สร้างปัจจัย คือความดี มีคุณธรรม
๑๘. ฉุดช่วยเขา เราพ้นเคราะห์
ไม่สมควร จับแมลง มาฆ่าเล่น
เป็นบาปเวร ก่อกรรม อันยิ่งใหญ่
เมื่อเห็นสัตว์ จะจมน้ำ รีบช่วยไว
ด้วยจิตใจ เมตตา พ้นภัยพาล
สัตว์หรือคน รักชีวิต เช่นเดียวกัน
ต่างหนีพลัน ความตาย กลัวประหาร
โปรดพิทักษ์ อนุรักษ์ไว้ ให้อยู่นาน
พวกลูกหลาน ตามแบบอย่าง ทางที่ดี
๑๙. เพรียกพร้องร้องร่ำ
เห็นนกน้อย ถูกขัง คงโศกเศร้า
ด้วยตัวเจ้า นั้นยังมี ซึ่งพี่น้อง
มีพ่อแม่ เมียลูก เคยคุ้มครอง
แต่เจ้าต้อง มาพราก จากมือคน
เขาฟังเสียง นกร้อง รื่นรมย์หู
เขาไม่รู้ ว่าเจ้านี้ ช่างสับสน
คิดถึงลูก คิดถึงแม่ แสนมืดมน
ต้องทุกข์ทน เหมือนนักโทษ โปรดเห็นใจ
ถ้ามนุษย์ ถูกพราก จากของรัก
คงต้องจัก เจ็บจน ทนไม่ไหว
กรุณาให้ อภัยทาน สราญใจ
ปล่อยเขาไป จากกรง คงหมดกรรม
๒๐. สำนึกขอขมาความผิดบาป
มีเมตตา ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต
ด้วยดวงจิต แน่วแน่ ไม่แปรผัน
จะรับทาน มังสวิรัติ ชั่วชีวัน
เปิดศักราช อันแจ่มจรัส เพื่อตัดกรรม
มีหิริ โอตตัปปะ สละชั่ว
ไม่เกลือกกลั้ว กลัวบาปเก่า มากลายกล้ำ
ตั้งแต่นี้ ต่อไป จะใฝ่ธรรม
อโหสิกรรม ชาตินี้ อย่ามีเวร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น