เมนูอาหารเจ เทศกาลกินเจ

รวบรวม...เมนูอาหารเจอร่อยๆ สูตรอาหารเจง่ายๆ

คลิ๊กเลย >>> รวบรวมเมนูอาหารเจ..อร่อยๆ   สอนทำอาหารเจง่ายๆ

พระพุทธะจี้กง

พระพุทธะจี้กง  (濟公活佛)




ประวัติพระพุทธะจี้กง (โดยสังเขป)


        พระพุทธะจี้กงเป็นบุคคลในรัชสมัยราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ.๙๖๐-๑๒๗๙) พระองค์ท่านเกิดในแผ่นดินพระจักรพรรดิเจียวซิน ราวปี ค.ศ.๑๑๔๙ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือนยี่ และพระองค์ท่านมรณภาพในรัชสมัยพระจักรพรรดิเจียติ้ง ค.ศ.๑๒๐๘ ซึ่งเป็นเวลานานกว่าแปดร้อยกว่าปีมาแล้ว

        ตามประวัติของพระองค์ท่านเกิดที่เมืองไถโจว อำเภอเทียนไถ บิดาชื่อเหมาชุน แซ่หลี่ มีอาชีพรับราชการเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีดีมาก ไม่โลภ ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เนื่องจากรับราชการมานานหลายปีเกิดความเบื่อหน่ายจึงลาออกจากราชการมาอยู่กับบ้าน ท่านนายอำเภอและภรรยาได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่่ง ซึ่งเป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจซึ่งมีชื่อว่า "ซิวเอวี๋ยน" เมื่อสมัยซิวเอวี๋ยนยังเป็นเด็กอยู่นั้นได้มีท่านเจ้าอาวาสซิ่งคงแห่งวัดกั๋วชิง ทำนายไว้ว่า บุตรชายท่านนายอำเภอคนนี้เป็นพุทธบุตรลงมาจุติต้องให้บวชอย่าให้ไปทางอื่นมิฉะนั้นจะเดินหลงผิด

        ซิวเอวี๋ยน เป็นเด็กที่มีความตั้งใจเล่าเรียนด้วยความสม่ำเสมอ ร่าเริงมีความเฉลี่ยวฉลาดเจนจัดในวิชาอักษรศาสตร์ สามารถแต่งโคลงกลอนได้อย่างเชี่ยวชาญ พออายุได้ ๑๘ ปี บิดามารดาก็หวังว่าจะให้แต่งงานแต่โดยไม่คาดคิดมารดาของท่านก็มาล้มป่วยลง และเสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่บิดาของท่านเป็นอย่างมาก จึงทำให้สุขภาพของบิดาทรุดโทรมและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ดังนั้นด้วยความกตัญญูพระองค์ท่านได้ไว้ทุกข์ให้บิดามารดาเป็นเวลาถึง ๓ ปี 

        หลังจากบิดาเสียชีวิต ซิวเอวี๋ยนก็ได้ทำตามคำสั่งเสียของบิดาและก็ได้นึกถึงคำทำนายของท่านเจ้าอาวาสซิ่งคง ท่านจึงเดินทางออกจากบ้านตามหาอาจารย์เหยี่ยนเซี่ยถังเพื่อออกบวช จนกระทั่งบุญสัมพันธ์มาถึงซิวเอวี๋ยนจึงได้มาพบเจ้าอาวาสเหยี่ยนเซี่ยถังและได้มาบวชที่วัดหลิงอิ่น ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเนินเฟยไหลฟงแห่งเขาซีซาน หลังจากที่พระองค์่ท่านบวชแล้วได้รับสมญานามว่า "เต้าจี้" ท่านเจ้าอาวาสได้บอกให้ท่านฝึกหัดเริ่มต้นบำเพ็ญโดยการนั่งสมาธิและปฏิบัติตนเหมือนเช่นพระภิกษุทั่วๆไป จนท่านสามารถบำเพ็ญและบรรลุธรรมได้โดยฉับพลัน ซึ่งการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมของพระองค์ท่านแตกต่างจากพระภิกษุทั่วไป 

        ในสมัยนั้นการบำเพ็ญของพระองค์ท่านดูภายนอกเหมือนเป็นพระวิปลาส แต่แท้ที่จริงเป็นการตักเตือนผู้คนให้รู้ตื่นซึ่งคนภายนอกทั้งหลายไม่เข้าใจการกระทำของพระองค์ ท่านจึงเปลี่ยนชื่อเรียกจาก "เต้าจี้" เป็น "จี้เตียน" (แปลว่า...เพี้ยน) พระองค์ทรงมีความสงบนิ่งเฉลียวฉลาดไม่เคยถือสาหาความกับผู้ใด ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของพระองค์จะสวมจีวรปะๆ ขาดๆ ดื่มเหล้า แต่แท้ที่จริงแล้วนั้นท่านได้แฝงเป็นปริศนาธรรมไว้เพื่อสอนสั่งบุคคล

        ในสมัยนั้นจริงๆแล้วพระพุทธจี้กง ท่านมีแต่ความเมตตาและจริงใจ ตลอดชีวิตการบำเพ็ญของพระองค์ท่านได้ฉุดช่วยผู้คนมากมาย โดยพระองค์ลงมาจุติถึง ๗๒ ครั้งเพื่อผูกบุญสัมพันธ์กับบุคคลทั้งหลาย ในธรรมกาลยุคขาวสุดท้ายนี้พระองค์ทรงแบกรับหน้าที่ในการโปรด ๓ ภพ ซึ่งเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่และหนักหน่วงเพื่อฉุดช่วยมวลเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ให้กลับคืนสู่ต้นกำเนิดชีวิตเดิมแต่พระองค์ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยที่จะละเลยหรือแม้แต่จะทอดทิ้งลูกศิษย์ทั้งหลายแม้แต่เพียงสักคนเดียว ดังนั้นพวกเราทั้งหลายจึงนับว่าโชคดีที่ได้มีโอกาสรับธรรมะและเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธจี้กง 









พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กงหัวฝอ

รูปภาพ พระพุทธะจี้กง พระอาจารย์จี้กง จี้กง


1 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม