เมนูอาหารเจ เทศกาลกินเจ

รวบรวม...เมนูอาหารเจอร่อยๆ สูตรอาหารเจง่ายๆ

คลิ๊กเลย >>> รวบรวมเมนูอาหารเจ..อร่อยๆ   สอนทำอาหารเจง่ายๆ

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พระโอวาทพระพุทธจี้กง - เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง

พระพุทธจี้กง จี้กงหัวฝอ
พระโอวาทพระพุทธจี้กง เมตตาประทาน

        ที่จริงคนที่ถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์ ก็เพื่ออโหสิกรรมให้กับสัตว์วิธีหนึ่ง ยิ่งมีใจเมตตากรุณาเป็นเพื่อนที่ดี ผู้ถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่รับเนื้อ สวดมนต์ไหว้พระทุกๆวัน แผ่ส่วนกุศลไปยังสัตว์เดรัจฉานจะได้ลดโทษลง

ด้วยวิธีนี้ชีวิตสัตว์ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ถือศีล ไม่เพียงแต่ลดโทษยังได้บรรลุธรรมอีกด้วย สามารถพ้นจากความทุกข์ทรมารได้เร็วขึ้น ทำไมต้องกินเนื้อที่มีบาปโดยไม่คาดคิด เราก็ไปแปดเปื้อนบาปด้วย ยังทำให้บุญกุศลที่มีอยู่ลดน้อยลงไป ไม่มีทางได้กินฟรีหรอก กินเนื้อไปชิ้นหนึ่งต้องจ่ายบุญกุศลไปส่วนหนึ่ง มีคำกล่าวว่า...

เอาเปรียบคนอื่นไปส่วนหนึ่ง ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปส่วนหนึ่ง

อันนี้ยุติธรรมดี เพราะฉะนั้น กินเจ กินเนื้อ แล้วแต่คนเลือกเอา ผู้ที่กินพืชผักซึ่งได้รับพลังจากแสงอาทิตย์ กินแล้วไม่ต้องสูญเสียบุญกุศล ถ้ากินเนื้อ เพราะสัตว์มีวิญญาณ พวกมันอุทิศร่างกายให้เราสามมื้อ เธอกินเนื้อเขาเธอก็ต้องอุทิศกุศลไปให้เขา เพื่อคนจะได้พ้นโทษ อันนี้เป็นทางยุติธรรมที่สุด กินเนื้อเขาแล้วก็ต้องชดใช้เงินเป็นไปได้หรือ? สัตว์ถูกแยกร่าง ถ้ามันพูดได้ มันคงต้องฆ่าเธอแน่ๆ

ตัวหนังสือที่เขียนว่า "เนื้อ" "肉" ประกอบด้วย อักษร "คน" 2 ตัว นอกประตูมีคนหนึ่ง ในประตูมีคนหนึ่งมองดูแล้วก็เหมือนคนกินคน

ถ้าหากผู้ใดนิยมกินเนื้อ อาตมาจะบอกให้ฟัง คนที่กินมากเกินไปก็มีแต่โทษมากกว่าประโยชน์ ถ้าหากไม่เชื่อก็ให้ถามแพทย์ดู ยิ่งคนอายุมาก ความต้านทานลดลงกินเนื้อมากไปร่างกายก็มีโรคมากขึ้น เช่น คอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีไขมันไปเกาะมากขึ้น และอื่นๆอีกมาก คนที่ฉลาดบริโภคน้อยลงหน่อยจะดีกว่า ตอนนี้อาตมาจะเล่าเรื่องสัตว์ 6 ประเภทให้ฟัง


ประเภทที่ 1 วัว ควาย

ในสมัยโบราณวิทยาการไม่ก้าวหน้า สวรรค์เมตตาให้ วัว ควาย เป็นสัตว์ช่วยทำไร่ไถนา เป็นเพื่อนที่มีคุณที่สุดของมนุษย์ นอกจากนี้ยังให้น้ำนม ช่วยเลี้ยงบุตรพอแก่ลงคนก็เนรคุณด้วยการจับไปฆ่ากินเนื้อ ไม่สงสารเขาบ้างหรือ ?


ประเภทที่ 2 ม้า

ม้าเกิดมาเพื่อการเดินทางของมนุษย์บรรทุกของ มิใช่ไว้ในสวนสัตว์ให้คนดูเล่น แต่ปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้าทำให้ม้าหมดหน้าที่ไป


ประเภทที่ 3 แพะ

แพะช่วยถางหญ้าให้กับชาวนา และเป็นการชี้ทิศทางให้คนอีก จะได้ไม่เดินทางไปในที่มีอันตราย มิใช่เป็นเครื่องสังเวยในการหาลูกสะใภ้ หรือเป็นยาบำรุงของคน


ประเภทที่ 4 สุนัข

ทำหน้าที่เฝ้าดูแลบ้าน เป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์ที่สุดของคน มันจะไม่ทิ้งนายของมันไปเพราะความมีจนของนายแต่คนสิกลับไม่เห็นใจมัน กลับเอามันไปทำ "เนื้อหอม" เฮ้อ ! ... น่าสงสาร เนื้อหมานั้นหอมจริงหรือเปล่า ถ้าหากเอาเนื้อเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเธอมากิน แล้วบอกว่าห้อมหอมละก็ คงจะไม่ใช่จิตคนแล้วกระมัง !


ประเภทที่ 5 ไก่

ได้รับหน้าที่อันสำคัญ ขันในตอนเช้าตรู่ ไม่ว่าฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าใส หรือเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร มันก็ยังคงทำหน้าที่ไม่รู้จบของมัน บำเพ็ญประโยชน์ให้คนมามากแล้วแต่คนก็เลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพื่อประโยชน์ในทางกอบโกย อย่างนี้จะให้เรียกว่ามีเมตตาหรือหรือ ?


ประเภทที่ 6 หมู

คนเราไม่ควรเทข้าวที่เหลือทิ้ง แล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า ? สวรรค์เลยให้หมูรับหน้าที่กินของเหลือเดน เพื่อคนจะได้ไม่บาปในการทิ้งขว้างอาหารที่เหลือ แต่คนคิดว่าหมูเป็นสัตว์ที่คนเลี้ยงไม่มีคุณค่า ควรตอบสนองในการกินเนื้อเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงกินได้โดยชอบธรรม ยิ่งกินใหญ่

ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นหน้าที่และความเป็นมาของสัตว์เลี้ยง อยากให้ผู้คนได้ไตร่ตรองดูให้ดีๆ

หลายคนเห็นว่า เป็ด ไก่ หมู วัว ควาย ฯลฯ สัตว์เหล่านี้เกิดมาเพื่อเป็นอาหาร พูดตามเหตุผลต้องได้รับโทษตอบสนองเป็นอาหารของคน ทำไมจึงบอกว่าคนฆ่าสัตว์ไม่ได้ ?

จะยกตัวอย่างให้เห็น ถ้ามีคนหนึ่งเป็นหนี้เธอ เธอก็ไม่สามารถฆ่าเขาเพื่อชดใช้หนี้ ควรใ้ห้เป็นหน้าที่ของศาลเพื่อชดใช้ใ้ห้ตามแต่ศาลสั่ง จิตโพธิสัตว์อาศัยเมตตาเห็นใจเขา ไม่อยากให้วิญญาณรับโทษ ก็เหมือนปฏิบัติต่อผู้พิการ ได้แต่บริจาคด้วยใจรักอย่างเดียว

ผู้บำเพ็ญก็เช่นเดียวกัน ต้องฝึกจิตใจให้มีเมตตากรุณา พุทธจิตจะได้ใสสะอาด ผู้ที่กินเืนื้อของวิญญาณบาปเหล่านี้ (เนื้อสัตว์) โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็จะเปื้อนราคีของวิญญาณบาป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการบำเพ็ญ ถ้าหากทานมังสวิรัติแล้วก็ทำให้จิตใจใสสะอาด เกื้อหนุนการบำเพ็ญเพียร ผู้ที่ทานเนื้อสัตว์มากๆจิตใจจะขุ่นมัว เป็นการเพิ่มพูนกิเลสตัณหา ตั้งแต่โบราณมาผู้ที่บำเพ็ญมักตัดสินใจทานมังสวิรัติเพื่อตัดความอนาถทางโลกีย์

โบร่ำโบราณมาแล้วมีร่องรอยหลักฐานมากมาย วันนี้จะเล่าเรื่องให้ัฟังเรื่่องหนึ่ง...

ในสมัยราชวงศ์ถังมีผู้ถือศีลคนหนึ่งชื่อ อุ้ม แซ่หลง ครอบครัวร่ำรวยมาก มีความรู้สูง ชื่อเสียงเป็นที่ล่ำลือ บรรลุธรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย ตั้งจิตอธิษฐานขอพบแต่สัจธรรม เริ่มแรกก็ไปคารวะอาจารย์สือโตว ต่อมาก็มาคารวะอาจารย์ม้าโจวตั้งแต่นั้นมาก็บรรลุจิตเดิืม เข้าถึงหลักอนัตตา ปกติคุณหลงเป็นคนมีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ประกอบกรรมดีบริจาคอยู่เนืองนิจ

วันหนึ่งมีพ่อค้า 2 คนมาหา ต้องการยืมเงินหนึ่งพันตำลึงไปทำการค้า ท่านหลงก็ยินดีให้ยืมทันที เมื่อพ่อค้าทั้ง 2 คนได้เงินแล้วก็คิดว่าจะเข้าเมือง แต่มีสัมภาระที่ติดตัวมามาก ท่านหลงจึงให้เอาลาที่เลี้ยงไว้ให้ยืมไปขนของ

ครั้งนั้น... พ่อค้าทั้งสองเดินทางมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก็หยุดพัก พ่อค้าคนหนึ่งได้พูดขึ้นมาว่า...

" ท่านหลงใจดีให้ยืิมเงิน แต่ลืมจดลงในสมุด ถ้าหากเราเอาเงินนี้ไปโดยไม่ใช้คืน ก็ไม่มีใครรู้ "

พูดจบ... เจ้าลาก็พูดขึ้นทันทีว่า...

"ฉันชาติก่อนได้ยืมข้าวโอ๊ตไป 3 ขีด แล้วก็ไม่ได้ใช้คืน ชาตินี้เกิดมาเป็นลาต้องขนของให้ท่านเดินทางมาไกลถึง 30 ลี้ เพื่อเป็นการใช้หนี้เก่า ตอนนี้ฉันใช้หนี้ท่านหมดแล้ว ฉันเห็นทีจะต้องกลับก่อน"

พ่อค้าทั้งสองตกใจมาก เมื่อได้ยินเสียงลาพูดออกมาเป็นภาษาคนได้ ก็เลยรีบเอาเงินที่ยืมมานั้นไปคืนให้ท่านหลง ท่านหลงแปลกใจมากถามว่า... "ทำไมรีบคืนเงินมาให้เล่า ?"

พ่อค้าทั้งสองจึงเล่าเรื่องที่ได้ยินจากลาพูดให้ฟังว่า"พวกเรากลัวว่าจะต้องไปใช้กรรมชาติหน้า เลยรีบนำเงินมาคืนให้" พูดแล้วก็ลาจากไป

พอตกกลางคืน ท่านหลงก็เดินไปที่คอกม้า บังเอิญได้ยินม้ากับลาสนทนากันว่า..."ชาติก่อนเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ ชาตินี้ก็เลยมาใช้หนี้เขา"

เมื่อท่านหลงได้ยินแล้วก็แหงนหน้าขึ้นเปรยว่า..."ฉันตั้งใจจะช่วยคน คิดไ่ม่ถึงว่าจะกลายเป็นเพิ่มภาระให้กับพวกเขา"

เมื่อปลงไม่ตก ต่อมาไม่นานคุณหลงก็รวบรวมทรัพย์สมบัติทั้งหมดนำขึ้นเรือออกไป คิดจะทิ้งลงทะเล ขณะเดียวกันนั้นมีเรือโจรสลัดแล่นมาเข้าเทียบ พวกโจรสลัดปีนขึ้นเรือมาจะเข้าปล้น ท่านหลงเลยเล่าเรื่องลากับพ่อค้าสองคนให้ฟัง และตนเองคิดจะเอาเงินทั้งหมดนี้มาทิ้งทะเล

ปรากฏพวกโจรสลัดได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว จิตใจเกิดสำนึกผิดพูดว่า...

"พวกเราจะออกบวช ยอมติดตามท่านถือศีลกินเจ"

สุดท้ายท่านหลงก็ได้เอาเงินทั้งหมดนั้นบริจาคเพื่อเป็นค่าอาหารสำหรับโจรสลัดทั้ง 500 คน ต่อมาพวกโจรสลัดทั้ง 500 ก็บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จบรรลุอรหันต์ เลยได้ชื่อว่า "อรหันต์ 500 องค์"

ครั้งนั้น... ท่านหลงได้ละทิ้งสมบัติ บุตรีก็ถือศีล ทอเสื่อยังชีพไปวันๆ หนึ่ง ลูกชายก็ทำไร่ไถนา ทั้งครอบครัว สามี ภรรยา บุตร สี่ชีวิต ตั้งใจบำเพ็ญเพียร ภายหลังที่ท่านหลงได้ช่วยโจรสลัดกลับใจได้ จิตใจอิ่มเอิบยิ่งเพิ่มความเพียรมากขึ้น ในที่สุดก็บรรลุสำเร็จเป็นอรหันต์ทั้งครอบครัว

มีผู้คนแต่งกลอนสรรเสริญว่า :
                                                                      สำนึกผิด คิดกลับใจ เพราะทำชั่ว
                                                            เกิดเป็นวัว   เป็นควาย  เพื่อใช้หนี้
                                                            อกุศลจิต     ยากนัก      จะพ้นทุกข์
                                                            ไม่สัตย์ซื่อ   ทุนรอน     หาไม่ได้

ท่านทั้งหลายเห็นแล้วใช่ไหมว่า พวกเป็ด ไก่ วัว ควาย ต่างก็เกิดมาชดใช้กรรมเก่า ซึ่งเป็นการยืนยันถึง "กฏแห่งกรรม" รีบๆ กลับใจประพฤติตนให้ถูกต้อง ตั้งใจบำเพ็ญเพียร เพื่อไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน




บทความที่ได้รับความนิยม