เมนูอาหารเจ เทศกาลกินเจ

รวบรวม...เมนูอาหารเจอร่อยๆ สูตรอาหารเจง่ายๆ

คลิ๊กเลย >>> รวบรวมเมนูอาหารเจ..อร่อยๆ   สอนทำอาหารเจง่ายๆ

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปล่อยสัตว์...ที่ปาก ที่ใจ

ปล่อยสัตว์ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งกุศล

บุญ...จากการปล่อยสัตว์

การปล่อยสัตว์สามารถเพียบพร้อมด้วยบุญทานทั้งสามในเวลาเดียวกันคือ

ทรัพย์เป็นทาน ...
ธรรมทาน ...
แรงกายเป็นทาน ...

การใช้เงินซื้อสัตว์ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ซึ่งถูกจับขังเพื่อรอฆ่า คือ "ทรัพย์เป็นทาน"

ขณะที่ทำพิธีปล่อยสัตว์ การสวดคาถาปล่อยสัตว์หรือเทศนาธรรม จิตใจนอบน้อมต่อไตรสรณคมณ์อุทิศให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายก็คือ "ธรรมทาน"

การช่วยชีวิตสัตว์ให้ออกห่างจากตะแลงแกง ทำให้อุ่นใจและสุขใจเมื่อรู้ว่าจะได้รับอิสระภาพก็คือ "แรงกายเป็นทาน"

กุศล...จากการปล่อยสัตว์

แต่โบราณอริยะเจ้าผู้เปี่ยมด้วยธรรมบารมีนั้นต่างภิรมย์ชมชื่นในกุศลของการปล่อยสัตว์และคุ้มครองชีวิตสัตว์

นอกจากการปล่อยสัตว์ที่อยู่ภายนอกแล้ว ยังต้องปล่อยสัตว์ในตัวเราด้วย

  1. ปล่อยสัตว์ที่ปาก คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงจะไม่สร้างหนี้เวรกรรม
  2. ปล่อยสัตว์ที่ใจ คือ ขจัดอารมณ์ นิสัยเคยชินที่ไม่ดี โลภ โกรธ หลง ออกไปจากจิตใจเรา
เพราะชีวิตยังสั่งสมความกลุ้มกังวลที่ทำให้ใจต้องเป็นทุกข์จึงได้ชื่อว่าเวไนยสัตว์ ฉะนั้นแล้ว กุศลของการปล่อยสัตว์ก็คือ ปล่อยวางความกลุ้มกังวลที่เกิดขึ้นในจิตใจ

ปล่อยวางคือการขจัดรากเหง้าแห่งอกุศลกรรม จึงจะไม่ตกเข้าสู่ทุคติภูมิ



สาเหตุสำคัญ...ทำไมสัตว์จึงถูกฆ่า !...

การปล่อยสัตว์ทำได้ทุกวันในชีวิตประจำวันคือ...ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เอาเนื้อสัตว์มาปรุงอาหาร อันเป็นต้นเหตุแห่งการฆ่าที่มากที่สุดในโลกนี้

อย่างน้อยงดทุกวันที่ตรงกับวันที่เราเกิด สัปดาห์ละครั้งก็ยังดี และค่อยๆเพิ่มพูนจนครบถ้วนสมบูรณ์งดจากการปรุงและรับประทานอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ทุกชนิดลงได้ ดีกว่าให้ร่างกายของเราเป็นหลุดฝังศพของสรรพสัตว์ทุกวันไม่มีวันว่างเว้น 


..................................................................................................................................

อ้างอิง

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

พระโอวาทพระพุทธจี้กง เมตตาประทาน [หัวข้อต่างๆเรื่องการกินเจ]



ส่งเสริมคนให้กินเจ ทำไมชวนยากชวนเย็นเหลือเกิน ?

ใครๆ ก็รู้ว่าเราเป็นผู้บำเพ็ญธรรม เราทานเจ เราไม่เบียดเบียนเลือดเนื้อกระดูกเขา แต่เวไนย์อีกมากมายเขายังไม่รู้ เขายังละไม่ได้ เราไปบอกเขากินเจดีอย่างโน้นอย่างนี้ เลิกเถอะเลิกเบียดเบียนเขาแล้วหันมากินเจ พูดเสียมากมาย แล้วทำไมไม่ลองทำไปให้เขาทานดู !...

ลองนึกดู ! เหมือนกับเราตอนแรก เรายังทำไม่เป็นก็แค่ผัดผักเขียวกินเฉยๆ รสชาติอย่างนี้ใครจะเอา วันนี้เราทานเจ อาหารเจมีมากมาย อยู่ที่เรารู้จักที่จะดัดแปลงแล้วแบ่งปันให้เวไนย์ได้ลิ้มลอง เช่นนี้จิตเมตตาจึงจะมีโอกาสหลั่งไหลออกมาได้ ไม่ใช่เมตตาเพียงแต่ปาก !...

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

แม่ครัวทำอาหารแสนโอชะ ทำไมคนก็ยังไม่อยากกินเจ ? 

กินเจแล้วเจ็บออดๆ แอดๆ ใครจะมากินด้วย กินเจแล้วยังมีอารมณ์ พูดจาหยาบคายดุด่า ครอบครัวแตกแยก อย่างนี้ใครจะหันมากินเจร่วมกับเรา...

เพราะฉะนั้น กินเจแล้ว...จะต้องขัดเกลาแก้ไขอุปนิสัยที่ไม่ดีในตัวเองให้เกิดความสมบูรณ์เสียก่อน จึงจะสามารถเป็นบรรทัดฐานที่จะนำพาผู้อื่นให้ร่วมบำเพ็ญกับเราได้ เราจะได้พูดอย่างภาคภูมิว่าเรามีดีอะไร...

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

ทานเจอย่างไร ทานแล้วเพิ่ม "บารมี" ? 

การทานเจที่ถูกวิธี คือ ยิ่งทานยิ่งไร้อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ยิ่งวางได้ ไม่ฟุ้งซ่าน มิใช่กินเพื่อตัดกรรมอย่างเดียว หรือมิใช่ทานเพื่อเปลี่ยนสีธงบนศรีษะของเราเท่านั้น แต่จะต้องลดละฉันทา ๖ และอารมณ์ ๗ ให้เบาบางลง เรากินผักแล้วต้องเบาทั้งกาย และบางทั้งหนี้กรรม !...

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

คนที่ "ทุศีลเจแตก" จะฉุดช่วยเขากลับมาได้อย่างไร ?

ศิษย์กี่คนแล้วที่ตั้งปณิธาน ?... และมีศิษย์เท่าไหร่แล้วที่ทุศีลเจ ?...ศิษย์หลายคนที่ท้อถอยไม่ปฏิบัติธรรม ?...

อาจารย์ถ่ายทอดธรรมทุกคน พวกเราทุกคนกล้ารับประกันให้เขาเหล่านั้นได้หม ?...(ได้)

มีความกล้าที่จะแบกรับตรงนี้ใช่ไหม !... ล้วนแล้วแต่ยอมที่จะแบกรับตรงนี้ กล้าที่จะแบกรับบาปของเวไนย์ไช่ไหม !...

เราจะรอให้เขาล้มเลิกทานเจก่อนแล้วค่อยมาแบกรับอย่างนี้หรือ !... ขณะนี้ปกป้องเขาเอาไว้ก่อน นั่นเป็นสิ่งสำัคัญกว่า...

                                         พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

เมื่อภัยพิับัติมาถึง จะรอดพ้นได้อย่างไร ?

เภทภัยปัจจุบันมีมากมายใช่หรือไม่ ?...

ในวันข้างหน้า โรคระบาด ภัยธรรมชาติ อาหารความอดอยาก จะเกิดขึ้นทีละอย่างปรากฏให้เจ้าเห็น พวกเจ้าที่เคยเห็นมาเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ภัยพิบัติของวันข้างหน้ามันเกินกว่าที่พวกเจ้าจะจินตนาการออกมาได้...

เคยคิดไหมว่าจะใช้วิธีไหนที่จะรอดพ้นจากเภทภัยเมื่อโรคระบาดมาถึง มีแต่คนที่กินเจเท่านั้นที่สามารถหลบภัยในครั้งนี้ได้ วันข้างหน้าโรคภัยทั้งหลายล้วนแต่อาศัยร่างกายของสัตว์มาแพร่เชื้อ...

วันข้างหน้าเมื่อเกิดภัยพิบัติ มีแต่คนที่สร้างบุญสร้างกุศลจึงจะสามารถรอดพ้น วันข้างหน้าอาหารขาดแคลนและอดอยาก มีแต่คนที่ำบำเพ็ญจริงจังรู้จักถนอมบุญ จึงสามารถรอดพ้นเภทภัยได้...

ขอเตือนศิษย์ทั้งหลายต้องรักษาโลกใบนี้ ข้าว น้ำ ไฟฟ้าต้องรักษา อย่าสุรุ่ยสุร่าย ถ้าไม่มีน้ำจะไม่สะดวก ใช่หรือไม่ ?... เพราะอะไรจะไม่่มีน้ำ เพราะพวกเจ้าไม่รู้จักทนุถนอม ล้างถ้วยพระ...น้ำที่เหลือเอามาถูพื้นได้ เอามารดต้นไม่ได้ นั่นก็คือการรู้จักถนอมและประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ เข้าใจไหม...

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

พระอาจารย์ไขปมปัญหา ทานเจทำไมไม่มีบุญกุศล ?

อย่าคิดว่าเราละหนี้กรรมจากเขา เราทานเจแล้วจะมีบุญกุศล มีหรือไม่มี ?...
         
ไม่มี !... ทุกคนต่างก็ทราบดี เราเพียงแต่ตัดหนี้กรรมที่ผูกพันเราในอดีตชาตินั้นให้ขาดลงในชาตินี้ แต่ที่ผ่านๆมาเราก็ยังเป็นหนี้กรรมเขามากมายใช่หรือไม่ แล้วเราจะเอาอะไรไปชดใช้เขาเล่า ?... (บุญกุศล)

แล้วมีหรือยัง...

มันจะมีได้อย่างไรในเมื่อเราไม่ได้ไปสร้างเลย !...

เราจะเข้ามาสู่ประตูธรรมได้ กว่ารากบุญ กว่าบุญสัมพันธ์จะมาถึง และกว่าจะถึงวันนี้ อาจารย์โปกปัดหนี้กรรมให้ศิษย์แล้วเท่าไหร่ บรรพบุรุษของเจ้าเองกำลังรอรับส่วนบุญกุศลจากพวกเจ้า แต่ในเมื่อยิ่งบำเพ็ญ บุญกุศลก็ยิ่งไม่มีเพิ่มเติม บรรพบุรุษกว่าจะสร้างบุญสัมพันธ์จนให้พวกเจ้ามารับวิถีธรรม แต่ตัวเขาเองกลับรออยู่ที่นรก พวกเจ้าเคยคิดถึงพระคุณอันนี้หรือเปล่า ฟ้าเมตตามาเท่าไหร่ เคยระลึกถึงบุญคุณฟ้าดิน คิดถึงบุญคุณอาวุโส บ้างหรือไม่...
                                                                    
พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง เมตตาประทาน

"ผู้ที่ส่งเสริมเวไนย์กินเจ บุญกุศลนั้นยิ่งใหญ่มาก"

อ้างอิง จากหนังสือแม่ครัวหัวใจรักธรรม 

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไขปมปริศนาวิญญาณคลื่นยักษ์สึนามิ พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาประทานโดย องค์อมตพฤฒาชันษาแห่งทักษิณาลัย


พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาประทานโดย... 
องค์อมตพฤฒาชันษาแห่งทักษิณาลัย


นำพาวิญญาณผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่น มาเป็นประจักษ์พยานหลักฐาน  วันที่ 27 มีนาคม 2554


อ้างอิง
http://www.96rangjai.com/books/tsunami/

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศีล 5 จากพระอาจารย์จี้กง

ศีล 5 จากพระอาจารย์จี้กง




คำนำศีลห้าจากพระอาจารย์

"ศีล" เป็นศัพท์บัญญัติในศาสนาพุทธ มีคนพูดว่า ผู้บำเพ็ญวิถีอนุตตรธรรม ทำไมจะต้องใช้ศัพท์บัญญัติของศาสนาพุทธด้วย นี่คือความรู้สึกนึกคิดของคนที่มีจิตใจแบ่งแยก

"ศีล" เป็นรากฐานเบื้องต้นที่จะพาคนให้พ้นเวียนว่าย มีรู้จักถือศีลเจ้าจะทำผิดกันมากมาย ไม่ถือศีลเหมือนมีรายรับไม่พอกับรายจ่าย จึงต้องใช้ศีลมาเป็นกรอบบังคับให้ทำความผิดกันน้อยลง ไม่ว่าใครบำเพ็ญในสายใด ล้วนแต่จะต้องรอบคอบระวังรักษาศีล ให้กาย วาจา ใจบริสุทธิ์

เราบำเพ็ญปฏิปทาพระโพธิสัตว์กันก็จะต้องระวังแม้สิ่งละเอียดเล็กน้อย มิฉะนั้นทุกขณะที่เกิดความคิด จิตสำนึกของเจ้าก็จะไม่บริสุทธิ์ ธรรมปฏิบัติมีหลายแนวทาง ที่เหมือนกันคือการถือศีล ไม่ว่าจะเป็นลัทธิใด ศีล จะเป็นธรรมปฏิบัติร่วมกันอย่างแน่นอน ฉะนั้นวันนี้อาจารย์จึงจะพูดเรื่อง  ศีล ให้พวกเจ้าเข้าใจ ให้ไปรักษากันเอาไว้ไม่ใช่ให้รักษาเพียงปณิธานสิบ รหัสคาถาแล้วก็จะพ้นเวียนว่ายตายเกิด ถ้าเอาแต่ท่องทุกวัน แต่ไม่ตัดตัว ต้นคิด  ไม่ตัดรากเหง้าของความผิดบาปทั้งหลายก็จะเข้าข่าย ดายหญ้าไม่ขุดรากเหง้า ลมฝนพัดเจ้าก็แตกยอดดอกใบ

รากเหง้าของความผิดบาปจะต้องตัดขาด ขุดถอนให้สิ้นโดยเด็ดขาด อริยวิสัยในตัวของเจ้า (จิตพุทธะ) จึงจะเจริญวัยปัญญาของเจ้าจึงจะเบิกบานแจ่มใส ศีล สมาธิ ปัญญา ศีลนำมาก่อน การได้พบวิถีธรรมหนทางตรงในยุคสุดท้ายนี้เนื่องจากรากฐานของเหล่าเวไนยค่อนข้างหยาบจึงไม่อาจเห็นจิตเดิมแท้ของตนได้ทันที ไม่อาจสำรวมรักษาตนให้บริสุทธิ์ได้ จำต้องอาศัยศีลเป็นครู เมื่อไม่อาจใช้จิตเดิมแท้เป็นตัวรู้ได้ จึงต้องใช้ศีลเป็นครูนำทาง 

ถือศีลช่วยให้ครอบครัวเป็นสุขสามีภรรยาต่างถือศีล ความผิดเรื่องชู้สาว เหล้ายาอบายมุขย่อมไม่เกิดขึ้น ทุกคนในสังคมถือศีล บ้านเมืองไม่ต้องมีสถานีตำรวจ โรงศาล ไม่ต้องใช้กฎหมายควบคุม อยากให้สังคมสงบสุข ทุกคนจะต้องถือศีลอาศัยศีลควบคุมตน

ถือศีลช่วยให้เจ้าหลุดพ้น ศีลไม่ใช่เครื่องผูกมัดจำกัดเจ้า แต่ศีลเหมือนรางรถไฟ หากเจ้าแล่นออกนอกรางก็จะอันตรายศีลเป็นขอบเขต เมื่อเจ้าออกนอกขอบเขต สัญญาณไฟแดงจะเตือนภัย ทำผิดไปจากความเป็นคนก็คือ ละเมิดศีล

เสรีภาพ คือ ความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เป็นภัยต่ออิสรภาพของผู้อื่น จึงต้องอาศัยศีลมาควบคุม
ถ้าทุกคนมีเมตตากรุณาประจำใจ ศีลก็ไม่มีผลอะไรสำหรับเจ้า

ถือศีล คือ กำหราบตนเอง เสริมสร้างตนเองให้เกิดเมตตากรุณา กำหราบตัวเองไม่ให้เพ้อเจ้อ ไม่ลักขโมย ไม่โลภอยาก ไม่เมาสุราขาดสติ ไม่มักมากในกาม

ศีลช่วยให้เจ้าเดินเข้าสู่สัมมาสัมโพธิมรรคอย่าเห็นศีลเป็นเครื่องผูกมัดพันธนาการ และอย่าเอาศีลมาเป็นเครื่องวัดระดับการบำเพ็ญหรือพิจารณาหาความผิดของคนอื่น เขาบังเกิดกุศลจิตจะรักษาศีล ให้เขาค่อย ๆ ปรับสภาพไป

ในอดีตชาติที่ผ่านมา เราต่างปลูกเมล็ดพันธุ์อันเป็นเหตุและผลมากมายในสัญญาความจำ พอกพูนไว้นานเหลือเกินแล้ว จึงยากที่จะกำจัดไป ทุกคนต่างมีอารมณ์มีอนุสัยที่นอนเนื่องแฝงอยู่นี่คือจุดบกพร่อง จึงต้องอาศัยศีลค่อย ๆ ปรับสภาพ ค่อย ๆ กำหราบตัวเจ้าเอง

อย่าได้กลัวการถือศีล สำหรับผู้บำเพ็ญ ศีลเป็นบันไดที่จะต้องก้าวขึ้นไป เพื่อมุ่งสู่วิถีโพธิสัตว์ เจ้าสร้างบุญกุศลกันโดยไม่เข้าใจ  ศีล เท่ากับเสี้อผ้าเปื้อนที่ยังไม่ได้ซัก เอาออกมาใส่ทีไรรอยเปื้อนก็ยังคงอยู่ อนุสัยในแต่ละชาติของชีวิตที่ได้สั่งสมไว้ มิได้ขจัดไป มันนอนเนื่องอยู่ในสันดานเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ฝังอยู่ในผืนนาได้รับแสงแดดก็จะแตกใบงอกงามขึ้นมาใหม่จึงกล่าวว่า...

ดายหญ้าไม่ขุดรากเหง้า ลมฝนพัดเจ้าก็แตกยอดดอกใบ

การจะกำจัดวัชพืชในจิตใจต้องอาศัยถือศีลเป็นหลักจึงจะถึงรากถึงโคน

...................................................................................................................................................................

บทฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

มีคนพูดว่า “ฉันไม่ได้ฆ่าคนอื่น ฉันฆ่าตัวเองฉันมีสิทธิ์” ที่ฆ่าตัวตาย ในสัญญาความจำที่สืบเสื่องมาจากอดีตชาติมันฝังเมล็ดพันธุ์ของการฆ่าตัวตาย ไว้แล้ว เกิดชาติต่อมาจึงมีอารมณ์อยากฆ่าตัวตาย ฉะนั้น ให้ระวังอย่าให้เกิดความคิดนี้ ใครที่ฆ่าตัวตายได้นำเร็จ อย่างน้อยจะต้องฆ่าตัวตายเรื่อยไปถึงเจ็ดครั้ง คำว่าฆ่าตัวตาย จะต้องหมายความว่า ฆ่าตัวกิเลสตัณหาของตัวให้เหลือไว้แต่จิตพุทธะ เป็นศิษย์พระพุทธจี้กง เป็นผู้บำเพ็ญวิถีอนุตตรธรรม สูงส่งเหลือเกิน กว่าจะได้เกิดกายเป็นคนนั้นยากนัก พระคุณของฟ้า ดิน พระคุณของบ้านเมือง พระคุณของพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เบญจคุณากรยังมิได้ตอบแทน เจ้ามีสิทธิ์อะไรจะฆ่าตัวตาย

อย่าช่วยเขาฆ่า เมื่อเห็นใครฆ่าสัตว์แล้วเจ้าพูดว่า “ฆ่าเสียให้ตายก็ดี” “เนื้อนี้อร่อยดี” ใครเขาปรึกษาจะทำแท้งถ้าเจ้าบอกว่า “ดี ดีเหมือนกัน อย่าเอาไว้เลย” เห็นอาหารเนื้อสัตว์มากมายในงานเลี้ยง ถ้าเจ้าบอกว่า “ดีจังเลย น่ากินจังเลย” อย่างนี้เท่ากับมีส่วนสนับสนุนช่วยฆ่า

เจ้าถือศีลกินเจ ลูกจะแต่งงาน จะจัดเลี้ยงอาหารเนื้อสัตว์ถ้าเจ้าบอกว่า “ ตามใจ ” อย่างนี้เท่ากับมีส่วนช่วยฆ่า เจ้าจะต้องบอกว่า “พ่อแม่ถือศีลกินเจ ย่อมไม่สนับสนุนให้ลูกเบียดเบียนชีวิตเขา” ถ้าลูกยังขืนดึงดันจะเลี้ยงอาหารเนื้อสัตว์ พ่อแม่จนใจก็ได้แต่บอกว่า “ถ้าอย่างนั้น ลูกก็รับผิดชอบเองก็แล้วกัน” 

ขายยาจีน ในพิกัดยาในส่วนของสัตว์หรือแมลงอยู่ด้วย ผู้ขายจะต้องสำนึกว่า “อย่าได้เป็นบาปเป็นเวรแก่กันเลย มันจำเพาะเป็นยารักษาโรค” แต่อย่าแนะนำให้เขาเอายาไปตุ๋น เป็ด ไก่ ฯลฯ บำรุงกำลังเป็นอันขาด เพราะจะเท่ากับมีส่วนช่วยฆ่าด้วย ขายยานอนหลับ ยาประเภทกล่อมประสาทปลุกประสาท ฯลฯ เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวกรรมกับการฆ่าด้วย เขาอาจกินเกินขนาด กินผิดพลาด ทำให้ประสาทเสีย พิการ ถึงตาย ให้ระวังให้มาก

ผู้ตั้งปณิธานกินเจแล้ว กาย วาจา ใจ จะต้องสะอาด อย่าพูดพล่อย พูดให้เขาน้อยใจอยากตาย หรือหาทางตายไปจริง ๆ

ขายของมีคมที่เป็นอาวุธทำลายชีวิตได้ให้ระวัง ผู้ขายสิ่งเหล่านี้มีเหตุแห่งกรรมหนุนนำมาแต่อดีตชาติ ผู้บำเพ็ญมิให้ใช้เครื่องหนังสัตว์แท้ เช่น เข็มขัด รองเท้า กระเป๋า ฯ ผู้สนับสนุน หรือสร้างค้านิยมเครื่องหนังแท้เท่ากับมีส่วนช่วยฆ่า 

ให้ใครหยิบยืมเงินทองต้องระวัง ต้องรู้ว่าเขาจะเอาไปทำอไร ไปก่อกรรมไปทำแท้งฯ เราก็เท่ากับมีส่วนช่วยฆ่า จะร่วมบุญทานต้องพิจารณา หากเอาเงินไปช่วยร่วมงานบุญที่เขาล้มวัว ล้มควาย ฆ่าหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ เราก็ไม่พ้นมีส่วนช่วยฆ่า ร่วมบุญทานบริสุทธิ์ฉุดช่วยคนให้พ้นทุกข์เหมือนปลูกเมล็ดพันธุ์เมล็ดเดียวเก็บเกี่ยวได้หมื่นเมล็ดไม่ขายเบ็ดตกปลา เบ็ดอันนี้เขาซื้อไปตกปลา ได้ปลากี่ตัว ปลาเหล่านั้นก็จะมาคิดบัญชีกับเจ้า แม่บ้านกินเจแต่ยังต้องทำอาหารเนื้อสัตว์ให้พ่อบ้านและลูก ๆ ถ้าจำใจต้องซื้อปลา ระวังอย่าซื้อปลาท้องไข่ จะต้องเกี่ยวกรรมกับเขาหลายชีวิต

ผู้บำเพ็ญหญิง จักต้องหมั่นสำนึกขอขมากรรมเสมอ ๆ ทำไมคนเป็นโรคมะเร็งกันมากเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่การแพทย์เก่งกาจก้าวหน้าถึงเพียงนี้ ไม่น่าจะมีโรคแปลก ๆ ที่รักษาไม่หายมากมายอย่างนี้จึงจะถูก น่าจะสรุปผลได้อย่างเดียวว่า มันเกิดขึ้นตามแรงฆาตกรรม ธัญญาหารจะต้องอุดมสมบูรณ์เป็นแน่ โรคภัยไข้เจ็บก็จะลดน้อยลง ในสมัยพระอริยกษัตริย์ เหยาซุ่น สามพันกว่าปีก่อน ไม่มียาฆ่าแมลง พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์จะเห็นได้ว่ายิ่งฆ่า ยิ่งมาให้ฆ่าไม่หมด

เสือเป็นสัตว์ป่ากินคน มีคนไปกินเสือไหม ไม่มีแต่เสือก็น้อยลงทุกวัน ส่วนเป็ดไก่ คนกินกันมากจึงเกิดมากขึ้น แมลงก็เช่นเดียวกัน กำจัดเท่าไรก็ไม่หมด บริเวณที่อยู่อาศัยให้รักษาความสะอาด มดแมลงวัน ก็จะน้อยลง เขามีกรรมร่วมกับเจ้า เขาต้องการอยู่รอดจึงมารบกวนเจ้า เจ้าฆ่าเขา เขาฆ่าเจ้าเหมือนคนกินแพะ แพะตายไป เกิดเป็นคน คนตายไปเกิดเป็นแพะ เวียนกันไม่จบสิ้น

มีคำถามว่าหลังจากตั้งปณิธานกินเจตลอดชีวิตแล้ว สัตว์เลี้ยงที่บ้านจะจัดการอย่างไร เจ้าก็คิดเสียว่าเขาเกี่ยวกรรมกับเจ้ามา จงเลี้ยงดูเขาต่อไปจนกว่าจะตายแล้วฝังเขาเสียให้เขาไปเกิดใหม่

ทำบุญ หรือจัดเลี้ยงในวันเกิด อย่าได้เบียดเบียนเดือดร้อนชีวิตสัตว์ การเกิดของเจ้ามิได้แสดงถึงความยิ่งใหญ่อันใดกลับทำร้ายสัตว์มากมายให้ตายลง บนบานศาลกล่าวเสร็จแล้วถวายหัวหมู ยังไม่ทันจะสร้างบุญกุศลกลับหาเรื่องให้ตัวเองซ้ำอีก ฟาดเคราะห์ไปเปราะหนึ่ง ยังไม่ทันไรเกี่ยวกรรมเข้าไปอีกรายหนึ่งต่อไปอย่าได้ไปบนบานศาลกล่าวอย่างนี้ดีกว่า

งานศพพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ให้เลี้ยงอาหารเจเป็นดีที่สุด งดการฆ่าสัตว์เป็นดีที่สุด จะได้ไม่เป็นบาปตามติดผู้ตายไป หากยังกินเจกันไม่พร้อมทั้งครอบครัว ภายในสี่สิบเก้าวัน ให้กินเจทั้งหมดพร้อมกัน
สามีภรรยาก็ควรแยกห้องกันสี่สิบเก้าวันจะช่วยลดหย่อนบาปเวรของผู้ตายได้

การไม่ฆ่า คือ เมตตากรุณา จิตสำนึกนี้ทุกคนต่างมี ไม่ฆ่าเป็นเรื่องทำได้ไม่ยาก แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ซิลำบากหน่อย เคยมีศิษย์ต่อรองกับอาจารย์ว่า “พระอาจารย์ขอรับ ศิษย์ไปผ่าตัดมา เสียกำลังไปมาก ขออนุญาตกลับไปกินเนื้อสัตว์ให้แข็งแรงเสียก่อนแล้วจะกลับมากินเจใหม่ คงไม่เป็นไรนะขอรับ”
หากเจ้าคิดจะต่องรองก็แล้วแต่เจ้า อาจารย์บังคับเจ้าไม่ได้ หนี้ของใคร ใครก็ชดใช้กันเองไม่เกี่ยวกับอาจารย์ จึงไม่ต้องต่อรองกับอาจารย์ ประสาทจิตใจไม่ปกติ การฆ่าของเขามีโทษบาปเบากว่าคนทั่วไป ด้วยกุศลเจตนาจะช่วยพระพุทธอริยเจ้า การฆ่าของเขามีโทษบาปเบากว่าคนทั้งไป เพื่อช่วยคนหมู่มาก เช่น สู้รบเพื่อชาติ แม้โทษบาปจะเบากว่า แต่ไม่พ้นกฎแห่งกรรม

ทำไมไม่ให้ฆ่าคน เพราะคนอยู่ใกล้กับอริยมรรค ชาตินี้แม้จะมีวิบากทุกข์ยาก แต่หากได้สดับพุทธธรรมแล้วบำเพ็ญจริงสุดชีวิตหมดหนี้เวรกรรมเมื่อไรก็บรรลุ ได้ทันที ฆ่าสัตว์อื่น ๆ มีโทษบาปเบากว่าฆ่าคน เพราะสัตว์ยังห่างไกลอริยมรรค แต่เขาก็มีโอกาสเหมือนกันจึงไม่ควรฆ่าอย่างยิ่ง หมูผูกใจเจ็บอยู่กับเลือดเนื้อของเขามาก จะไม่ยอมไปจากตัวจนกว่าเนื้อชิ้นสุดท้ายของเขาจะถูกลืนกินหมดไป ให้สังวรณ์ไว้

คนที่เจ็บป่วยประจำ ให้ทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์มาก ๆ นอกจากปล่อยสัตว์ที่เห็นได้ภายนอกแล้วยังจะต้องปล่อยสัตว์ที่อยู่ภายในจิตใจ ของตนอีก กิเลสตัณหา เหมือนสัตว์ร้ายที่สิงสู่อยู่ในใจใครกักเก็บไว้ก็มีแต่วิตก กลัดกลุ้มฯ จงปล่อยเขาออกไปให้หมด เพราะเขาจะพาเจ้าลงนรกไปด้วยเช่นกัน
ค้าขายไม่ดี ยิ่งทำยิ่งขาดทุน หมุนเวียนขัดข้องต้องทำบุญปล่อยสัตว์ละเว้นการฆ่ากินเป็นสำคัญเพราะชาติก่อน เจ้าฆ่าเขาไว้มาก จึงต้องมีวิบากมาก หน้าตาไม่มีราศี กิจการร้านรวงไม่เป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้พบเห็น เป็นเพราะเจ้าสร้างบุญสัมพันธ์กับใคร ๆ ไว้น้อย ให้เร่งปล่อยสัตว์ เว้นการกินเนื้อสัตว์
คนที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะใจดำอำมหิต ฆ่าสัตว์ชนิดใดเป็นประจำนาน ๆ เข้า หน้าตาของเขาก็จะละม้ายสัตว์นั้น ความคิดอยากฆ่าจะเกิดขึ้นมาในใจบ่อย ๆ

คนบาปหนาที่ฆ่าสัตว์ไว้ ก่อนตายจะถูกกรรมเวรนั้นรุมหนักเหมือนหนี้สินประดัง ชักหน้าไม่ถึงหลัง เหมือนใกล้วันปิดงบสิ้นปีของธนาคาร คนชอบฆ่าสัตว์มักจะฝันร้าย เมื่อกลับใจมากินเจใหม่ ๆ ก็ยังฝันกินเป็ดกินไก่ เพราะเคยกินเขาเอาไว้มากชาติก่อน ๆ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้มาก ชาตินี้เกิดมาจะอาภัพ จุกจิก ขี้ริ้ว ขาดมนุษยสัมพันธ์ ผู้คนรังเกียจชิงชัง คนบาปหนาก่อนตายจะไม่สงบ บ้างเห็นยมทูตมาลากคอ บ้างเห็นเจ้ากรรมนายเวร บ้างเห็นผี บ้างเห่าหอนโอดโอยกรีดร้องเสียงเหมือนสัตว์ต่าง ๆ ซากศพจึงน่าสะพรึงกลัว

ผู้ละเว้นการฆ่า (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) คือ ผู้ให้อภัยทาน
อภัยทาน คือ ให้สรรพสัตว์พ้นจากความหวาดทุกข์หวั่นภัย ผู้ละเว้นการฆ่า จิตเมตตาจะเพิ่มพูน ความกังวลหม่นหมองจะน้อยลง กายใจจะสุขสมบูรณ์ปราศจากโรคภัย

ผู้ละเว้นการฆ่า กิริยาวาจาจะอ่อนโยน ไม่แสดงอารมณ์ร้าย ผีสางเทวดาจะปกปักรักษา จะพบแต่สิ่งที่ดีมีผู้อุปถัมภ์ไม่ขาด ผู้ละเว้นการฆ่า จะนอนหลับสบายไม่ฝันน่ากลัว ไม่อึดอัดหรือเหมือนถูกกดทับ ละเว้นเนื้อสัตว์นานไปก็จะไม่ฝันกินเนื้อสัตว์อีก

ผู้ละเว้นการฆ่า ชาติหน้าเกิดใหม่ได้เป็นคนร่ำรวยสูงศักดิ์ ใจดี มีอิสระ ไม่พิพาทบาดหมางกับใคร ร่วมบุญสัมพันธ์กันไปทั่ว ผู้ถือศีลห้าได้บริสุทธิ์ อีกทั้งสร้างบุญกุศลเสริมส่ง จะได้ไปเกิดในขั้นพรหมโลก เพราะไม่ได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ของวิญญาณบาปไว้ในกมลสันดานอีกต่อไป

ศีลห้าตรงกับคุณธรรมห้าของศาสนาปราชญ์ พระศาสดาขงจื้อสอนไว้ว่า

  • ไม่ฆ่าเป็นเมตตากรุณา คือ เหยิน
  • ไม่ลักขโมยเป็นมโนธรรม คือ อี้
  • ไม่ผิดในกามเป็นจริยธรรม คือ หลี่
  • ไม่มุสาเป็นสัตยธรรม คือ ซิ่น
  • ไม่ดื่มสุราเป็นปัญญา คือ จื้อ

มดแมลงแม้ตัวน้อยนิดก็ฆ่าไม่ได้ เจ้ากินเนื้อสัตว์ โดยอ้างว่าเขาเกิดมาเป็นอาหารของคน เสือก็อ้างได้ว่าคนเกิดมาเป็นอาหารของเขา ยุงดูดเลือดของเจ้านิดเดียวเจ้ายังตบเขาให้ตาย ใจเขาใจเรา เจ้าคิดดู 

อย่าผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแสดงกิริยาไม่สุภาพหน้าหิ้งบูชาหรือโต๊ะบูชา ภาพพิมพ์พระเจ้า ขาดเก่าไม่ใช้ ให้ม้วนเก็บไว้อย่าเผาปนไปกับขยะ หรือกระจายอยู่บนดิน ถูกผู้คนเหยียบย่ำ เท่ากับลบหลู่จะเป็นบาป
สัตว์บ้านเลี้ยงไว้จนกว่าเขาจะตาย อย่าขายหรือให้ใครเอาเขาไปทอดทิ้ง อดอยาก ทำร้ายทารุณ เมื่อเขาตายให้ฝัง ท่องพระนามพระพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระองค์ใดก็ได้ ขอพระองค์ได้โปรดช่วยนำวิญญาณของเขาไปเกิดใหม่ให้ดีด้วย ทุกครั้งเมื่อเกิดการผิดพลาดทุศีล หากไม่มีที่บูชาพระในบ้านให้จุดธูปสามดอกปักกลางแจ้งสำนึกผิดและแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์นั้น ๆ บาปเวรก็จะเบาลง

คนถือศีลกินเจ ต้องรอบคอบระวัง ก่อนจะซื้ออาหารสำเร็จรูปต้องถามไถ่ให้แน่ใจ ถ้าซื้อผิดกินผิด ให้จุดธูปบอกกล่าวขอขมาต่อชีวิตเขา สำนึกผิดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำนึกผิดต่อมโนธรรมสำนึกของตนเอง

ขับรถชนสุนัข สุนัขถึงแก่ความตาย (เพราะเขาวิ่งตัดหน้าออกมาให้ชนเอง) ถ้าผลกรรมนี้ของสุนัขนั้นยังไม่หมด ชาติหน้าเขาจะต้องเกิดเป็นสุนัขอีก ถ้าผลกรรมนี้ของสุนัขนั้นจบสิ้นแล้ว ชาติหน้าเขาจะได้เกิดกายเป็นคน

ใช้เนื้อสัตว์เซ่นไหว้บูชา ภาวนาอธิษฐานขอลาภขอผล แก้บนด้วยการเล่นหยาบคาย เท่ากับให้ร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายเข่นฆ่ากายสังขาร อีกทั้งไม่ทำร้ายจิตวิญญาณเขา จึงต้องมีวาจาอ่อนโยน อนาทรต่อความทุกข์ร้อนของผู้อื่นด้วย

...................................................................................................................................................................

บทลักขโมย 

การลักขโมยอย่างลับ ๆ จี้ปล้น โจรกรรมหยิบฉวยซึ่ง ๆ หน้า หลอกลวง อำพรางใช้เล่ห์เพทุบาย (เช่น ลวงสวาท ล่อลวงคนไปขาย) ใช้อำนาจขู่เข็ญบังคับ ถือสิทธิ์เอาประโยชน์โดยมิชอบ (เช่น เก็บค่าคุ้มครองฯ ) ยักยอก เบียดบังบิดเบือน (เช่น ยึดเอาของฝากผ่านมือ ฯ) เหล่านี้ล้วนผิดศีลลักขโมย 

มีโรคภัยแล้วมากราบไหว้ขอให้พระคุ้มครองรักษาแต่ไม่ได้เอาธูปเทียนของตัวเองมา ถือวิสาสะหยิบเอาจากโต๊ะบูชา อย่างนี้แทนที่จะสร้างบุญชดใช้บาปเวรกลับกลายเป็นลักขโมยของพระเสียอีก 

ธูป น้ำมัน เครื่องบูชา มีคนนำมาถวายหรือใช้ไม่หมดทิ้งไว้ถือเป็นสมบัติของตำหนักพระ อย่าจาบจ้วงถือวิสาสะเอาไปใช้ จะจุดธูปกำใหญ่ภาวนาเฉพาะตัว เพื่อความสบายใจ ให้นำเครื่องบูชามาเอง โทรศัพท์ของตำหนักพระส่วนรวมมิใช่สิทธิของเตี่ยนฉวนซือ ถันจู่ หรือใครผู้ดูแล จะอนุญาตให้ใช้ฟรีได้ ใช้โทรศัพท์ทีไรไม่ว่าโทรใกล้ไกล ถ้าไม่ใช่เครื่องโทรศัพท์หยอดเหรียญเอง จะต้องจ่ายค่าโทร ตามอัตรา ค่าโทร ทุกครั้ง 

ผู้ทำหน้าที่ในโรงครัวต้องระวัง ปรุงอาหารชิมให้รู้รสคำเดียวก็พอ ปรุงเสร็จแล้วยังไม่ถึงเวลา อย่าตักไปกินเองเสียก่อน ข้าวของทุกอย่างญาติธรรมเขาอนุโมทนามา แม้เจ้าจะร่วมบริจาคด้วยก็ต้องรักษาระเบียบนี้ ข้าวของซื้อเข้ามามอบให้เป็นสมบัติของตำหนักพระแล้วไม่ให้กลับหอบหิ้วออกไป จะเป็นการลักขโมยของพระ แต่ถ้าเสร็จงานประชุมแล้วกับข้าวเหลือไว้จะบูดเน่าเสียเปล่า แบ่งปันกันไปไม่เป็นไร วันหน้าซื้อของใหม่มาถวายชดเชยก็ได้ ผลไม่ซื้อมาบูชาพระไม่ให้เอามากินก่อน สมบัติของพระ ไม่ให้ถืออภิสิทธิ์กินเองหรือให้ใครกินก่อนที่จะถวายพระเสร็จเรียบร้อย ของส่วนตัวซื้อเข้ามาเพื่อกินเองไม่เป็นไร 

ญาติธรรมบริจาคเงินบ่งชัดว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายประจำเดือน ช่วยงานบุกเบิกแพร่ธรรม พิมพ์หนังสือธรรมะหรือใช้จ่ายอะไรในตำหนักพระจะต้องจัดให้เป็นไปตามเจตน์จำนงของเขาอย่างถูกต้องชัดเจน เครื่องใช้ทำความสะอาดในตำหนักพระต้องรักษาความสะอาดเป็นของจำเพาะ ต้องแยกออกจากเครื่องใช้ของครัวของห้องน้ำห้องส้วม ไม่ให้ปะปนกัน ธูปหรือดอกไม้บูชาพระอย่าเอามาดมก่อนบูชาเป็นการจาบจ้วง เป็นการล่วงเกินไม่เคารพ 

ข้าราชการ พนักงาน หยิบฉวยซองจดหมาย กระดาษเขียนจดหมายของที่ทำงานไปใช้ส่วนตัว ถือว่าลักขโมย ผู้บำเพ็ญจงระวังให้มาก ถ้าเป็นของส่วนราชการเท่ากับขโมยทรัพย์สินของประชาชนผู้เสียภาษี สอนผู้อื่นให้หลีกเลี่ยงหรือหนีภาษี หรือใช้วิธีโทรศัพท์สาธารณะโดยไม่กินเงิน เป็นการขโมยทรัพย์สินของหลวง 

กฎระเบียบของการไปรษณีย์มิให้สอดแทรกเอกสารหรือสิ่งอื่นควบกันไป ถ้าแอบละเมิดเอาประโยชน์ก็ถือว่าผิดศีลข้อลักขโมย สิ่งพิมพ์ที่คิดค่าส่งไปรษณีย์ในอัตราต่ำ อย่าแอบสอดจดหมายส่งไปด้วย ผู้แนะนำให้ทุจริตและผู้ทำตามมีบาปฐานลักขโทยของหลวงร่วมกัน 

โดยสารรถเมล์ เรือเมล์ เพิกเฉยเมื่อเขาลืมเก็บค่าโดยสาร หรือหลีกเลี่ยงไม่จ่ายค่าบัตรผ่านประตู ก็เข้าข่ายลักขโมย หากลักขโมยเอาคนยากจนเข้า เขาทุกข์ร้อนจนเสียชีวิต เสียผู้เสียคน โทษบาปนี้เท่ากับลักขโมยและฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีลทั้งสองข้อ เวลาซื้อของตกลงกับผู้ขายให้เขาลดราคาลงแล้วไม่ต้องให้เขียนใบเสร็จรับเงิน การหลีกเลี่ยงภาษีอย่างนี้ก็เท่ากับขโมยของหลวง 

ในศีลห้า เรื่องลักขโมยเป็นเรื่องละเอียดมากและบำเพ็ญได้ยากที่สุด บางอย่างเผลอไปใจหยาบก็ผิดทันที ถ้าอาจารย์จะว่ากันให้ละเอียดเจ้าก็จะรำคาญว่าได้นั่นไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ถูก ไม่เอาแล้ว หนีไปอยู่อเมริกาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้ไม่ต้องฟัง ถ้าเจ้าไม่ฟังไม่ทำตามเจ้าก็จะรักษาบุญวาสนาไว้ไม่อยู่ 

ทุกคนมื่อมาถึงตำหนักพระก็หวังว่าจะได้เพิ่มพูนบุญกุศลกัน แต่ถ้าไม่ระวังกลับทำให้บุญกุศลรั่วไหลไปก็น่าเสียดาย "ต้นคิดจิตกระจายเหมือนควายขน แต่มรรคผลเทียบได้ควายสองเขา" จิตที่โลภโกรธหลงฟุ้งซ่านกระจายเมือนวัวควายขนเต็มตัว แต่ผู้จะบรรลุอริยมรรคได้มีน้อยนัก ดังเขาควายเมื่อเทียบกับจำนวนเส้นขนบนตัวควาย ผู้เพียรวิถีโพธิสัตว์อย่างแท้จริงจะไม่กลัวความยุ่งยาก แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพบ้านเมืองวุ่นวายจอแจก็สามารถจะแปรเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องทำให้จิตใจเศร้าหมองวุ่นวายให้เป็นพุทธะอันเบิกบานได้ ผู้บำเพ็ญเพื่อเอาตัวรอดเฉพาะตนเท่านั้นจึงจะหลบไปอยู่ตามป่าเขาอันวิเวก เพราะกลัวจะถูกสภาพแวดล้อมยั่วย้อมเอา 

ผู้บำเพ็ญวิถียานระดับสูงจะต้องใช้ปัญญาแยกแยะควรทำอย่างไร ไม่ควรทำอย่างไร การล่วงละเมิดทรัพย์สิ่งของบางกรณีไม่ถือว่าลักขโมย เช่น สำคัญผิดว่าเป็นของตน เช่น ร่มกันฝนคล้าย ๆ กัน วางรวมกันไว้เร่งรีบจะออกไป คว้าได้ของคนอื่นโดยไม่ทันพิจารณาว่าเก่าใหม่กว่ากัน ฟังผิดเข้าใจผิดว่าเขามอบให้ โดยมิได้ใฝ่ใจอยากได้มาก่อน เก็บเอามาเพราะเข้าใจผิดว่าเขาทิ้งแล้ว เมื่อเห็นเขากองรวมอยู่กับเศษขยะ ใช้โทรศัพท์บ้านใครที่เขาอนุญาตให้ใช้ได้ แล้วหยิบดินสอกระดาษบนโต๊ะมาจดข้อความ เมื่อกลับออกมาปรากฏว่าหยิบดินสอของเขาติดมือมาด้วย อย่างนี้ไม่ถือว่าลักขโมย แต่ต้องนำกลับไปคืนหรือบอกกล่าวเจ้าของ ซึ่งแล้วแต่ความสนิทชิดชอบกันแค่ไหน ไปบ้านเพื่อนที่รักใคร่คุ้นเคยกันจึงถือวิสาสะเปิดตู้เย็นเข้าครัวหาอะไรกิน ด้วยความเคยชิน แม้มิใช่เจตนาลักขโมย แต่ก็เข้าข่ายมักง่ายไม่สำรวม ล้มแชร์ เบี้ยวแชร์ก็เป็นลักขโมย ชาติหน้าจะต้องเกิดเป็นสุกร สุนัข หมูตัวหนึ่งค่าตัวกี่พัน เป็นหนี้เขากี่พัน จะต้องเกิดชดใช้กันจนกว่าจะครบจำนวนเงินที่เป็นหนี้เขา 

การลักขโมยมีโทษบาปหนักเบาต่างกัน ลักขโมยของตำหนักพระบาปหนัก เพราะเป็นสมบัติร่วมของญาติธรรมอันเป็นคุณต่อผู้บำเพ็ญ มีคำกล่าวว่า "เพิ่มพูนบุญวาสนาได้ในประตูไตรรัตน์ วาสนาอันไม่จำกัดเกิดจากหนึ่งเมล็ดพันธุ์บุญ" การสร้างบุญกับอาณาจักรธรรม วาสนาบารมีจึงแผ่ไพศาลไปทั่วธรรมธาตุ เป็นคุณแก่ผู้บำเพ็ญทั้งสิบทิศ เช่นเดียวกันในทางตรงกันข้าม การทำบาปในอาณาจักรธรรมก็เกิดขึ้นได้ง่าย จึงให้ระวังแม้หนึ่งเล่มเข็ม หนึ่งเส้นด้าย ก็มิให้จาบจ้วงฟุ่มเฟือยเสียหาย ถ้ามีเหตุต้องเอาไปใช้ หลังจากนั้นก็ให้บริจาคกลับคืนมา 

ให้กู้เงิน รับจำนอง จำนำ ค้าเงินด้วยวิธีใดก็ตามที่ขูดรีดคิดดอกเบี้ยราคาสูงทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ขัดสนทำให้เขาลำบากยิ่งขึ้นก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้ 

การบริจาคทานใดๆอย่ายึดมั่นว่า “ฉันให้” เงินจำนวนเล็กน้อยอาจจะไม่ยึดมั่น เป็นแสนเป็นล้านนั้นไม่แน่ จรวดเมื่อยิงออกไปในอวกาศจะต้องให้หลุดพ้นจากแรงกรรมจึงให้วางใจลงไม่ยึด มั่นต่อไป ความโลภ โกรธ หลง เป็นกระแสเกิดตายเรื่อยไปผู้ปฏิบัติบำเพ็ญจึงต้องทวนกระแสเกิดตายให้ได้ ศึกษาธรรมก็คือ เรียนรู้วิธีการทวนกระแสนี้ ผิดศีลข้อ ฆ่าสัตว์ฯ ลักขโมย พูดปดมักมากในกามทั้งสี่ข้อนี้ จะต้องไปเกิดในวิถีบาป คือ เปรต เดรัจฉาน ผีนรก จะต้องชดใช้กรรมนั้นจนกว่าจะหมดสิ้น แล้วจึงได้กิดเป็นคนต่อไป หากได้เกิดกายเป็นคนจะยากจนตกต่ำ เพราะชาติก่อนลักขโมยเขามามาก หากมีเงินทองมากมายแต่มิได้เสพสุข เพราะชาติก่อนทำบุญให้ทานแล้วนึกเสียดายในภายหลัง ชาตินี้จึงไม่ได้จับจ่ายใช้สอยอย่างสบายใจ ข้าวของเงินทองมักเสียหาย ค้าขายขาดทุน ใครเคยผิดศีลข้อลักขโมย เมี่อเงินทองข้าวของใครเสียหายมักจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย ใครเคยผิดศีลข้อลักขโมยมาก กายใจมักจะไม่สงบสุข ลูกจะผลาญสมบัติ หรือต้องจ่ายเงินเป็นค่าหมอค่ายารักษาตัวเสมอเป็นคนกระวนกระวายนั่งนอนไม่สบาย 

ผู้รักษาศีลข้อลักขโมยจะเป็นผู้รักษาทรัพย์สินเงินทองไว้ได้ ผู้คนเคารพยกย่องไว้วางใจรักษาศีลได้บริสุทธิ์จะเป็นผู้มีเกียรติคุณ เราผู้บำเพ็ญจะต้องรู้จักเชิดชูผู้อื่น มองผู้อื่นด้วยสายตาเป็นธรรม ไม่นินทาว่าร้าย แคะได้ความผิดเขา เขาทำไม่ดีเป็นกรรมของเขาเอง เจ้าเอาเขามาวิจารณ์ ปากของเจ้าก็ไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว อีกทั้งยังเกี่ยวกรรมเข้าไปด้วย เตี่ยนฉวนซือจะไม่ดีอย่างไรก็ตาม แต่เขาตัดเรื่องกามได้ จิตใจส่วนนี้ก็สมควรยกย่องแล้ว เหมือนสมณะนักบวชที่ปลงผมห่มจีวรได้ก็สมควรยกย่องแล้ว เขาจะได้บำเพ็ญหรือไม่อย่างไรเป็นเรื่องของเขาตัวเราเองให้รักษาจิตใจชื่นชม เขาได้ทุกขณะจะไม่ผิด ถ้าใจเป็นกลางพิจารณากล่าวอ้างถึงเพื่อการเสริมสร้างอย่างนั้นไม่ถือเป็น นินทาว่าร้าย 

ผู้ไม่ผิดศีลลักขโมยไม่ว่าอยู่กับคนกลุ่มใดสถานใดจิตใจก็เบิกบานไม่ลับล่อ ส่อพิรุธ ไม่มีใครกล้ารังแก ผู้ไม่ผิดศีลลักขโมยไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเรื่องนี้ไม่มีสัญญาความจำเรื่องนี้ ไม่มีแรงกรรมนำหนุนผลักดัน เมื่อตายจึงปลอดโปร่งจิตวิญญาณจะไปสู่สุคติได้ เมื่อเกิดความคิดมิชอบให้ถามจิตตนเองทันทีว่าควรหรือไม่ ระวังอย่าให้แปดเปื้อน มิจฉาทิษฐิเหมือนหินผา สกัดยาก โทสะจริตเหมือนเพลิงไฟ ยิ่งร้อนแรงกันเท่าไร อัคคีภัยสงครามก็เกิดตามมาไม่สิ้น 

รักษาศีลห้า เทพยดาห้าพระองค์จะปกป้องดูแลแต่ละศีลแต่ละพระองค์ รักษาได้บริสุทธิ์ จะหลุดพ้นการเวียนว่ายได้ง่าย การบำเพ็ญจะก้าวไปได้ราบรื่นรวดเร็ว อวิชชาเป็นเพลิงไฟ เผาไหม้จิตวิญญาณ เผาผลาญบุญกุศล ปลูกบุญทานเหมือนปลูกต้นไม้ทีละต้น อวิชชาเกิดขึ้นเมื่อใด ก็เผาไหม้หมดป่าในพริบตาเดียว

...................................................................................................................................................................

บทกามตัณหา

"อิ่มนัก มักเริงกาม" "มักมากในกาม เป็นความผิดบาปมหันต์กว่าความผิดบาปใด ๆ"

ความชั่วที่พัวพันคนมากที่สุดในโลก คือ “กามตัณหา” มันร้ายยิ่งกว่า “แอมแฟตตามีน” (ยาม้า/ยาบ้า) หรือยาเสพติดทุกอย่าง ใครเสพส้องกับมันเพียงครั้งเดียวก็อยากข้องเกี่ยวกับมันเรื่อยไป

“กามตัณหา” เป็นเรื่องสกปรกที่สุดเรื่องหนึ่งในโลก ในเมื่อเราจะบำเพ็ญวิถีโพธิสัตว์ก็ต้องรู้จักควบคุม ระหว่างสามีภรรยากันก็ให้เป็นไปตามจริยธรรมความเหมาะสม กามตัณหาเกิดขึ้นเมื่อใดเหมือนไฟเผาอะไรก็ยั้งไม่อยู่ จึงมีตัวอย่างผู้บำเพ็ญอยู่ในป่าเขาจนใกล้จะบรรลุอรหัตตผลอยู่แล้ว พอกามตัณหาเข้าครอบงำก็เสพกามกับลิงกับแพะ ฯ

การควบคุมเมื่อเกิดอารมณ์กามตัณหาให้ใช้วิธีดับไฟ ไม่ก่อไฟในใจ ไม่กินอิ่มเกินไป ปกติอยู่บ้านให้เดินเท้าเปล่าบ้างใต้เท้าสัมผัสความเย็นของพื้นบ้านจะช่วยลด ไฟราคะได้ ระวังพฤติกรรมอันเป็นเหตุเย้าแหย่ ยั่วยุ ไม่มีอะไรดีกว่าหลีกเลี่ยงไปให้พ้น ไม่ดูนิตยสาร หนังสือ หรือภาพยนตร์ประเภทลามก ไม่เข้าใกล้แหล่งโลกีย์

อย่าให้ภาพเหล่านั้นแปดเปื้อนนัยน์ตาของเจ้าได้ นัยน์ตาของผู้ชายทำชั่วเรื่องนี้กันมาก ตายแล้วนัยน์ตาจึงเน่าก่อน ปัญหาครอบครัวก็เริ่มมาจากนัยน์ตาที่ชอบหาของสดคาวนี่เอง รักษาจิตให้สงบบริสุทธิ์เสมอ อ่านหนังสือธรรมะสวดท่องคัมภีร์บ่อย ๆ เช่น วิสุทธิสูตร ปารมิตาหฤทัยสูตร สัจคัมภีร์พระศรีอาริย์
เกิดอารมณ์เมื่อไรให้ระงับทันที เช่นนี้จึงจะค่อยเบาบางลง ขึ้นหนึ่งค่ำ สิบห้าค่ำข้างจีน วันพระวันโกน วันเฉลิมวันสำคัญของพระพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอริยเจ้าพระองค์ต่าง ๆ อีกทั้งในระหว่างสี่สิบเก้าวันที่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เสียชีวิต ให้รักษาศีลถือพรหมจรรย์

แม้พวกเจ้าจะบำเพ็ญอยู่กับครัวเรือนมิได้ออกบวช แต่อาจารย์ก็หวังให้พวกเจ้ารักษาศีลได้บริสุทธิ์ดำเนินรอยตามปฏิปทาพระโพธิสัตว์ กายใจจะได้สำรวมบำเพ็ญเป็นกระแสเดียวกัน บำเพ็ญอยู่กับครัวเรือน ให้สร้างคุณสัมพันธ์กับคนในบ้าน การไม่ไดแต่งงาน มิได้แสดงว่าเสียสละตนเพื่องานธรรม

หญิงสาวจะต้องรู้จักจัดการกับงานบ้านของพ่อแม่ขณะนี้ให้ดีก่อนที่จะไปเริ่มต้นจัดการครอบครัวใหม่ หัวปักหัวปำทำแต่งานธรรมะอย่างเดียวไม่เรียกว่าเสียสละเพื่องานธรรม ทุกคนในครอบครัวเคยเกี่ยวกรรมกับเจ้ามาก่อนทำยังไงจึงจะให้กรรมนั้นสิ้น สุดลงอย่างไม่ร้าวฉานได้ มิใช่ให้หลีกหนี เจ้าคิดว่าจะทั้งภาระนั้นให้ใครดูแล

เจ้าเป็นลูกโทนคนเดียว พ่อแม่และกิจการทางบ้านเจ้าเห็นเป็น “เครื่องพันธนาการ” เจ้าไปส่งเสริมใคร ๆ ให้ละวางพนธนาการต่าง ๆ แต่ “เครื่องพันธนาการ” ของเจ้าเองละ ใครจะเป็นผู้ไปส่งเสริม หรือเจ้ามักจะเห็นว่าพ่อแม่ลูกกันเป็นเช่นห่อสัมภาระ เจ้าสอนให้ใคร ๆ วางลง หันหลังให้กับพ่อแม่อย่างเด็ดเดี่ยว เจ้าส่งเสริมเขาอย่างนี้หรือ เจ้าสอนให้เขาวางพันธนาการนั้นลงไปปฏิบัติโพธิสัตว์ปฏิปทา ถามหน่อยเถอะ กรรมที่เกี่ยวกันมาสิ้นสุดลงอย่างราบเรียบแล้วหรือยัง ผู้ที่หันหลังให้กันไม่ใช่ตัวของเจ้าเอง เจ้าจึงพูดได้ง่าย ๆ

การเป็นสามีภรรยากันล้วนมีเหตุปัจจัยให้มาลบล้างกรรมนั้นต่อกัน อย่าได้ชื่นชมชีวิตคู่ของใครว่าดีนักแล้วชักนำให้เขาแต่งงานกัน และก็อย่าได้คัดค้านไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแต่งงานของใคร เขาจะต้องลบล้างกรรมนั้นต่อกัน ให้เขาเป็นไปตามธรรมชาติ เจ้ามีหน้าที่เพียงชี้แนะให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น
ถ้าหากเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว เจ้าอยากสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ เจ้าปฏิบัติงานธรรมสร้างบุญทุกวันแล้วแม่ของเจ้าล่ะต้องสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ไหม เจ้าทิ้งแม่ให้นอนป่วยอยู่กับบ้านทุกวัน แม่ตกนรกแต่เจ้าขึ้นสวรรค์ บัลลังก์บัวเจ้าจะนั่งได้สบายไหม

เจ้ากินเจแต่แต่งงานไปอยู่บ้านที่ไม่ได้กินเจ จะต้องรู้ว่าเป็นกรรมเก่าที่เจ้าเกี่ยวพันกับเขามา เจ้าเป็นสะใภ้เป็นภรรยา ไม่ทำกับข้าวให้เขากินจะให้ใครทำ ถ้าจำใจต้องทำอาหารเนื้อสัตว์ก็ให้แผ่เมตตากล้าเผชิญว่า “ฉันไม่ลงนรกใครจะลงนรก” ค่อย ๆ ส่งเสริมเขาไปอย่าใช้ไม้แข็ง สักวันหนึ่งทุกคนในครอบครัวอาจกินเจร่วมกับเจ้าด้วยก็ได้ สังคมปัจจุบันน่าสงสารสามีภรรยาเลิกร้างกันมาก หากเจ้ามีชีวิตคู่ที่อยู่ดีมีสุข อย่าได้โอ้อวดต่อคนที่ชีวิตคู่ล้มเหลว

เตี่ยนฉวนซือมิให้เป็นพ่อสื่อแม่สื่อ ไม่ให้เป็นเถ้าแก่เป็นพยานการแต่งงานของใคร เพราะเตี่ยนฉวนซือถือปณิธานข้อพิเศษสำคัญยิ่ง สามีออกไปปฏิบัติงานธรรมให้รู้จักขอบคุณศรีภรรยา เธอเป็นแม่บ้านหุงหาอาหารเลี้ยงดูลูกทำงานบ้านทุกอย่างให้ ให้รู้จักยกย่อง เอาใจใส่ ตอบแทนคุณของเธอ

พ่อแม่ยังไม่เข้าใจวงการธรรมะ ด้วยคววามรัก อยากปกป้อง จึงห่วงใยที่ลูกออกไปปฏิบัติงานธรรม อาจพูดจาว่ากล่าวหรือขัดขวางอย่างนี้ไม่ใช่มารทดสอบ ให้ค่อย ๆ ออกมาปฏิบัติงานธรรมอย่างนิ่มนวล
หนุ่มสาวผู้ปฏิบัติบำเพ็ญจะต้องรักนวลสงวนตัวจะแต่งงานจะต้องขออนุญาตจนพ่อ แม่ยินยอมเสียก่อน หลังจากทำพิธีกราบไว้บรรพบุรุษแล้ว จึงจะเป็นสามีภรรยากันได้

ตำหนักพระเป็นสถานที่สูงส่ง อย่าได้อาศัยเป็นสถานที่หาคู่ เรื่องของครอบครัวเกี่ยวข้องกับศีลขือนี้อาจารย์จึงยกตัวอย่างให้ฟัง

ผสมพันธุ์สุนัขไปขาย ไม่ดีไม่งามไม่ควรทำ ขี่ม้าเล่นไม่ดีเป็นการกดขี่สัตว์อย่างหนึ่ง ทั้งแรงสะเทือนยังอาจก่อให้เกิดอารมณ์ราคะ ซื้อขายค่าตัวหญิงโสเภณีมีความผิดทางคุณธรรม ล่วงเกินภรรยาของเพื่อน กรรมนั้นจะตามสนอง

สะใภ้ด้วยกันและพี่น้องของสามีมิให้อิจฉาหาความกัน มิฉะนั้นชาติหน้าจะได้ภรรยาปากจัด หาคู่ครองต้องรู้ให้ชัดว่าเขามีคู่อยู่หรือเปล่า ถ้ามีอยู่ก็จงตัดใจคิดเสียว่าไม่มีบุญร่วมกันแม้รูปสวยแค่ไหนก็ไม่เอา มีคู่อยู่แล้วอย่านอกใจ

ทุกคนล้วนอยากมีสามีภรรยาที่อบอุ่น มั่นคงทั้งนั้น เอาใจเขามาใส่ใจเราแล้วเจ้าก็จะไม่ทำลายชีวิตคู่ของผู้อื่น ปฏิบัติงานธรรมก็ต้องให้เวลากับครอบครัวบ้างอย่าให้เขากล่าวโทษว่า “พระโพธิสัตว์กวนอิมชิงสามีของฉันไป” “พระพุทธจี้กงหลอกเอาภรรยาของฉันไป” ขอร้องทีเถอะ อาจารย์ไม่เคยสอนให้เจ้าหมกอยู่ในตำหนักพระทุกวันเลย ถ้าถึงขึ้นสุดท้าย สามียื่นคำขาดไม่ให้เจ้าออกมาไหว้พระอีก ภรรยาไม่ทำอาหารให้กิน ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นปัญหาก็จะตามมา 

บำเพ็ญอยู่กับครัวเรือนจะต้องทำให้ครอบครัวสมบูรณ์พูนสุขไม่ใช่ให้แตกแยก ไม่ใช่หมกตัวอยู่กับตำหนักพระแล้วถือว่าศรัทธาจริงใจ คนที่ไม่ค่อยได้มาตำหนักพระ แต่ที่บ้านของเขาสะอาดเรียบร้อยทุกคนในบ้านสมัึครสมาน ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกเวลาแสดงว่าเขาได้นำเอาธรรมะกลับไปปฏิบัติบำเพ็ญในครัวเรือนแล้วด้วยความศรัทธา อย่างแท้จริง 

กามตัณหาเป็นต้นตอของการเกิดตาย ผู้บำเพ็ญวิถีโพธิสัตว์ถ้าไม่ตัดอารมณ์นี้ แต่สำรวมกายได้จะหมายถึงผู้ปฏิบัติมนุษยธรรมเท่านั้น ผลแห่งการสำรวมทำให้ไม่ต้องเวียนว่ายใช้หนี้ในวิถีบาป คือ เปรต เดรัจฉาน วิญญาณนรก เกิดชาติใหม่จะได้ครอบครัวบริวารดี สุขกายสุขใจได้บำเพ็ญร่วมกัน ช่วยกันดำเนินวิถีชีวิตคนได้อย่างสมบูรณ์

พระโพธิสัตว์ล้วนกลัวเหตุอันเกิดจากกามตัณหาจึงตัดขาดเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง

ผู้ละกามตัณหาได้ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่เร่าร้อน เกิดฌานสมาธิปัญญาได้ง่าย
ผู้ละกามตัณหาได้ จะเกิดในตระกูลดี พ่อแม่มีศักดิ์ศรี พี่น้องปรองดอง คู่ครองอุ้มชูกัน ลูกหลานกตัญญูเพื่อนพ้องจริงใจต่อกัน
ผู้ละกามตัณหาได้ จะเป็นชื่นชมของเทพยดาฟ้าดิน เป็นที่เคารพยกย่องของคนทั้งหลาย แม้บำเพ็ญสำเร็จไป จะได้พุทธะลักษณะสมบูรณ์งดงาม

ผู้บำเพ็ญแต่โบราณมา ล้วนเห็นกามตัณหาเป็นศัตรูตัวร้าย เมื่อเห็นเหตุอันเป็นตัวยั่วเย้า จะหลีกลี้หนีไปให้พ้นทันทีเหมือนเผชิญกับหอกดาบคมกริบ อันพร้อมที่จะทำให้บาดเจ็บถึงตายได้เช่นนั้น 

มีอุทธาหรณ์คำเตือนว่า...

"แม้ชายชาญแสนหาญกล้า จะเชือนหน้าหญิงงามลำบากนัก"
"ผู้ยอมตายภายใต้ดอกโบตั๋น แม้เป็นผีในโลกันต์ก็ยังเริงชื่นชู้"

...................................................................................................................................................................

บทมุสาวาจามิชอบ

วาจามิชอบเป็นจุดเริ่มต้นของความผิดบาปอื่น ๆ การบรรยายธรรม ปาถาฐา ฯ จะต้องมีสาระในทางเสริมสร้าง จึงจะนับว่าเป็นนักพูดที่ได้รับความสำเร็จ

คนค้าขายจะไม่ให้ผิดข้อมุสานั้นยาก ทางที่ดีเมื่อค้าขายได้เงินทองของเขามาแล้วแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญทาน อุทิศให้เขา และชดเชยความผิดของตนเสีย แต่ช่วยพูดจาส่งเสริมญาติธรรมจะต้องติดตามผล ให้วิเคราะห์ความทุกข์ของเขาจากความเป็นจริง อย่าพูดให้เขาหลับหูหลับตามารับธรรมะ อย่าเหมาว่ารับธรรมะแล้วจะหายจากโรคภัยนั้น ๆ หรือกินเจตลอดชีวิตแล้วตั้งตำหนักพระจะหายจากโรคมะเร็งได้ 
จงส่งเสริมให้เขาเข้าใจหลักสัจธรรมด้วย มีกำลังความสามารถเท่าไรก็พูดไปเท่านั้น ไม่พูดเกินกำลังความเป็นจริง มีคำกล่าวว่า...“พูดปดไปเพียงคำเดียวจะต้องหาคำโกหกมาปิดบังคำพูดนั้นอีกถึงสิบคำ” พูดปดบ่อย ๆ จะกลายเป็นความเคยชิน “วาจามิชอบเป็นอาวุธฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น” “อย่าเที่ยวได้ปากยื่นปากยาวไปบ้านเหนือบ้านใต้”

พูดเพ้อเจ้อถือเป็นวาจามิชอบ แต่ถ้าพูดแบบอารมณ์ขันทำให้ผู้อื่นคลายทุกข์ได้ไม่ผิด เขายกย่องชมเชย ซึ่งแม้เจ้าจะดีอย่างที่เขาชื่นชมจริง แต่เจ้าก็ปฏิเสธคำชมด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนว่าไม่จริงอย่างนี้ไม่ผิด ทุกคนชอบฟังคำพูดที่ทำให้สบายใจ วาจาดีเป็นสะพานเชื่อมบุญสัมพันธ์ ถามทุกข์สุข แนะนำปลอบโยน ชื่นชมให้กำลังใจ 

ชาติก่อนชอบนินทาว่าร้าย ชาตินี้จะถูกทำลายชื่อเสียงมีอุปสรรคถูกขัดขวางถูกด่าว่าพูดจาไม่มีใครรับ ฟังน้ำเสียงไม่ไพเราะ อ้ำอึ้งพูดกำกวมไม่ชัดเจนฯ ผู้ผิดศีลข้อมุสาใช้วาจามิชอบ จะบำพ็ญอย่างไรก็ไม่ได้สัมโพธิผล ศีลห้าไม่บริสุทธิ์ บกพร่องช้อใดก็ตาม จะไม่อาจบรรลุสัมโพธิมรรคทั้งสิ้น ผู้ผิดศีลข้อมุสาใช้วาจามิชอบ กลิ่นปากจะเหม็นเป็นประจำรักษาไม่หาย กลิ่นตัวแรง ยิ่งกินเนื้อสัตว์จะยิ่งกลิ่นตัวแรง กินเจจะทำให้คลายลง

ผู้สำรวมรักษาศีล ใช้วาจาชอบ ปากจะมีกลิ่นหอมเหมือนดอกอุบลวรรณ ศพของผู้บำเพ็ญบางคนถูเผาแล้ว ฟันยังคงอยู่ไม่ถูกเผาไหม้ทั้งสามสิบสองซี่ก็มี ผู้ใช้วาจาชอบจะเป็นที่เชื่อถือยินดีแก่ตนทั้งหลายไม่ต้องมีสิ่งซ่อนเร้น จะไม่มีเสียงหยาบคายรบกวนหู รบกวนใจ

พูดเกินความเป็นจริงบางอย่างด้วยเจตนาดีเพื่อฉุดช่วยนำพาเขาให้พ้นทุกข์ ไม่ถือเป็นวาจามิชอบ “กวนใจ ทำลายสติ ให้เขาคิดมากลำบากใจ” “ทำลายสายสัมพันธ์ให้เขาแหนงหน่ายไม่ลงรอยกัน” “หยอกล้อล่วงเกินให้เขาอับอายเกิดปมด้อย” ฯลฯ เหล่านี้ล้วนผิดศีลมุสาใช้วาจามิชอบ

มีเกร็ดประวัติเรื่องหนึ่ง ซึ่งท่านบรมครูขงจื้อถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจศิษย์ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้น คือ เช้าวันหนึ่งศิษย์คนหนึ่งอยู่เวรทำอาหาร ข้าวต้มสุกแล้ว บังเอิญเศษอะไรชิ้นเล็กๆตกจากเพดานลงไปในข้าวต้ม ศิษย์ผู้นั้นกลัวจะเป็นอันตรายแก่ท่านบรมครู จึงตักเศษอะไรนั้นใส่ปากเพื่อพิสูจน์ว่ามันคืออะไร
ท่านบรมครูชี้ให้ศิษย์อีกคนหนึ่งดู ศิษย์ผู้นั้นลุกขึ้นตรงเข้าไปว่ากล่าวติเตือนเพื่อนทันทีว่า “เสียมรรยาทแอบกินอาหารก่อนท่านครู” ศิษย์ผู้ถูกกล่าวหาร้องปฏิเสธรีบชี้แจงความเป็นจริงด้วยความตกใจ ท่านบรมครูจึงเรียกชุมนุมศิษย์ทั้งหมดแล้วให้คติว่า “สิ่งที่ครูมองเห็นเองยังผิดต่อความเป็นจริงได้แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาล่ะ จากปากที่สามต่อไปความเป็นจริงจะถูกบิดเบือนไปอีกเท่าไร...”

ฉะนั้นก่อนจะสรุปความว่ากล่าวติเตียนใคร จึงให้ระวังคำมุสาวาจามิชอบ “ไม่อยากมีเรื่องกล่าวหาว่าร้าย ให้สงบปากสงบคำอย่าพร่ำพูด” อย่าพูดเอาแต่ได้ อย่าปักหลักพูดแต่ฝ่ายตัวเอง ให้ยืนอยู่เป็นฝ่ายเขา เห็นใจเขาให้โอกาสเขา พูดเพื่อคนอื่นบ้างความบาดหมางจากวาจาจะน้อยลง

มีคนสองระดับที่ไม่นินทาว่าร้าย คือ ผู้มีปัญญาระดับสูง และคนโง่ทึ่มที่สุด ปัญญาสูงเห็นสัจธรรมไม่หวั่นไหวในเสียงรบกวน คนโง่ทึ่มไม่เข้าใจในเสียงรบกวน คนสองระดับนี้จึงบำเพ็ญศีลข้อนี้ได้ดี

จะพูดจานำพาคนมารับธรรมะ อย่าให้เขาเข้าใจผิดว่าเจ้ามีความพึงพอใจในตัวเขา ต้องเอาความเมตตาเป็นเจตนา อย่าเอาอารมณ์ ความรู้สึกพิสมัยเป็นเจตนา ญาติธรรมหนุ่มสาวต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก 

อาชีพหมอดูทำนายทายทักดวงชะตา อาชีพดูทำเลที่ทาง(ฮวงจุ๊ย) ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษาฯ ยิ่งต้องระวังวาจา พูดผิดพลาดพลั้งไปทำร้ายจิตใจ ทำลายชีวิตอนาคตเขา จะบาปมาก 

ผู้ไม่ผิดศีลมุสาไม่ใช้วาจามิชอบ ผู้ได้สำรวมปากคำมาสามชาติ ชาตินี้ปลายลิ้นจะแตะถึงจมูก ลิ้นมีสีแดงดังชาดทาไว้ ริมฝีปากอิ่มเกิดเป็นหญิงซี่ฟันจะกว้างหนา เป็นศรีภรรยาเป็นศรีสะใภ้ แต่หากหญิงใดฟันห่าง ลมปากผ่านช่องฟันได้เป็นคนจับจ่ายไม่ยั้งเก็บเงินไม่อยู่ ฟันซี่เรียวเล็กเหมือนฟันหนู เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเจ้าเล่ห์เจ้ากล หญิงใดสุ้มเสียงอ่อนโยนนุ่มทุ้ม มีบุญวาสนาสูงส่ง ลักษณะภายนอกเหล่านี้เป็นเครื่องประกอบให้เจ้ารู้ไว้พิจารณาตัวเอง บกพร่องส่วนใดก็ให้แก้ไขด้วยการปฏิบัติบำเพ็ญในที่สุดลักษณะด้อยของเจ้าก็จะกลายเป็นลักษณะดีได้ 

พวกเจ้าเพ้อเจ้อ มุสา ใช้วาจามิชอบกันวันละมากมายพอๆกับกินข้าวใช่ไหม นี่แหละจะทำให้การปฏบัติบำเพ็ญของเจ้าถูกก่อกวน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยเหมือนกับน้ำข้าวต้มใสๆ ดูเหมือนกับไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็ทำให้เจ้าสะดุดได้ สำรวมในศีลอย่างแท้จริง จึงเป็นการบำเพ็ญอย่างแท้จริง

ผู้ได้รับวิถีธรรมแล้วไม่ถือศีลจะเป็นเพียงผู้มีบุญสัมพันธุ์ที่ผ่านเข้ามาในประตูพุทธะเท่านั้น ถือศีลได้บริสุทธิ์ หนึ่งศีลมีหนึ่งเทพยดาคุ้มครองรักษา ไม่สำรวมในศีล สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพยดาไม่กล้าเข้าใกล้ อีกทั้งไม่อาจปกปักรักษา ถือศีลสำรวมวาจา จะเกิดปัญญามีวาทะศิลป็มีสง่าราศีลักษณะดีงาม


...................................................................................................................................................................

บทขาดปัญญาเสพสุราของมึนเมา

คนเป็นสัตว์ที่เกิดจากแรงกรรม แรงกรรมผลักดันพฤติกรรมความเป็นไปในชีวิตของคน การแสดงออกตามอนุสัยสันดานเป็นแรงกรรม ไม่เฉพาะเจ็บป่วยหนักจึงเรียกว่าแรงกรรม แรงกรรมเปลี่ยนแปลงได้ด้วยจิตใจมุ่งมั่นในความดีงาม

เขาว่าอาจารย์ขี้เมา ฉันเหล้า ฉันเนื้อสัตว์ ถ้าอย่างงั้นอาจารย์ก็ต้องลงนรกซิใช่ไหม อาจารย์สอนพวกเจ้าให้งดดื่มเหล้า เพราะพวกเจ้ากินนกเข้าไปตัวหนึ่งแล้วไม่อาจฉุดช่วยวิญญาณของเขาให้ไปเกิดเป็นคนได้ เมื่อแม้แต่ฉุดช่วยวิญญาณของตัวเองยังไม่ได้เลย เจ้าจึงต้องสำรวมละเว้น หลังดื่มเหล้าแล้วเจ้ายังคงรักษาสติสัมปชัญญะรักษากิริยาสง่างามอยู่ได้ไหม จุดนี้เจ้าจึงเทียบกับพระอริยเจ้าไม่ได้ บางครั้งพระอริยเจ้าอุบัติมาในโลกเพื่อล้อเล่นชีวิตแต่พระประวัติบางเรื่องคนเล่าขาน หรือการแสดงก็แต่งเติมเป็นนิยายไปฉะนั้นในส่วนนี้จึงอย่าได้เอาพระองค์มาเป็นแบบอย่างข้ออ้างทำตาม 

แม้วิถีอนุตตรธรรมจะเป็นยานขึ้นสูง แต่ธรรมปฏิบัติตามทางสายกลางก็ยังคงต้องเริ่มต้นด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา อย่าเข้าใจว่าเมื่อได้จุดนี้จากพระอาจารย์แล้ว ได้รู้จุดสถิตจิตวิญญาณตนโดยฉับพลันแล้ว จะกล่าวอ้างว่ารู้แจ้งเห็นจริงได้ อนุสัยสันดานเดิมของเจ้าที่ติดตามมา เจ้าได้ชำระแล้วหรือ ? หนี้เวรกรรมจากหกหมื่นปีที่ผ่านมา เจ้าลอกออกทีละชั้นได้หรือยัง ? เจ้าได้สร้างสมบุญกุศลได้เจริญปณิธานใช้หนี้เขาไปหรือยัง ? 

ฉะนั้น เจ้าจึงจำต้องค่อยสำรวมระวังบำเพ็ญไป ขณะนี้พวกเจ้าก็ดีแต่เผยแพร่นำพาคนให้ได้รับธรรมะ ไม่ได้ย้อนมองภายในจิตใจของตนเองเลย กิเลสตัณหา อนุสัยในสันดานมีอยู่เท่าไร รู้ไหม ทำไมคนจึงเวียนว่ายเกิดตายในชีววิถีหกไม่จบสิ้น มันเวียนว่ายไปตามแรงของสันดาน

แม่บ้านทำอาหารชอบจะเหยาะเหล้าแต่งกลิ่นสักเล็กน้อย คิดว่าไม่ถึงกับทำให้มึนเมา หารู้ไม่ว่าจะติดเป็นนิสัยแล้วจะแก้ยาก ผู้ชายพอนึกถึงงานเลี้ยงนึกถึงเรื่องเสริมสร้างสุขภาพก็จะนึกถึงเหล้า ผู้บวชบำเพ็ญกินอาหารวันละสองมื้อ หน้าตาสดใส เลือดฝาดสมบูรณ์ ไม่เห็นจะต้องอาศัยเหล้ามาบำรุง มันอยู่ที่พลังจิตต่างหาก ทางที่ดีอย่าแตะต้องมันเลย

เจ้าจะใช้เหล้าได้ในโอกาสใด เมื่อเจ็บป่วย หมอให้ยาที่ต้องใส่เหล้า ดองเหล้าแต่ไม่ให้ถึงกับมึนเมา หายป่วยแล้วให้เลิกไปเลยไม่ให้ติดใจ ยาผสมเหล้าใช้ทาภายนอกไม่เป็นไร 

ดื่มเหล้าทำให้ทรัพย์สินเสียหายบุญวาสนาค่อย ๆ ลดน้อยลง ไม่ดื่มเหล้าและไม่ให้เหล้าแก่ใคร เดินทางไปต่างประเทศก็ไม่ช่วยซื้อไม่ช่วยหอบหิ้วเหล้าให้ใคร ไม่ค้าขายเหล้า เขากินเข้าไปแล้วขาดสติ ทำความชั่วอะไรลงไปบ้าง ความผิดบาปตรงนั้นเกิดจากเหล้าที่เจ้าให้เขา ขายเขา หรือช่วยหอบหิ้วมาให้เขา ฯ เจ้าคิดว่าเจ้ามีส่วนด้วยไหมกับความผิดบาปนั้น เขาจะดูถูกว่า “น้ำหน้าผู้หญิง” กินเหล้าสูบบุหรี่ขี่รถซิ่งไม่เป็น ยังดีกว่าที่เจ้าจะเอาอย่างเขา เขาสอนให้เจ้าตกนรกรู้ไหม โรคตับ หัวใจ เบาหวาน มะเร็งในกระเพาะอาหาร ฯ จะเกิดตามมาตั้งแต่โบราณมาเราเสียคนดี ๆ ไปมากแล้วเพราะเหล้า

อริยกวี “หลี่ไป๋” คนหนึ่งละที่เมาเหล้าแล้วจมน้ำตาย เพราะลงไปอุ้มดวงจันทร์ในน้ำ กลิ่นเหล้าเต็มตัวอย่างนี้ เมื่อมีเหตุร้ายเจ้าจะให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดเข้าใกล้มาฉุดช่วย ผู้ใดไม่เสพเหล้าและอาหารคาว รักษากายใจให้บริสุทธิ์ผู้นั้นจะมีกลิ่นกายหอมคล้ายไม้จันทน์

พูดถึงกลิ่นไม้จันทน์ วันหนึ่งเมื่อเจ้าได้กลิ่นไม้จันทน์แล้ว หันไปก็ได้พบพระโพธิสัตว์กวนอิมประทับอยู่ ณ ที่นั้น อย่าได้เที่ยวบอกเล่าไป เพราะจะกลายเป็นเพ้อเจ้อ นิมิตเห็นดอกบัวขาว เห็นแสงสว่างเจิดจ้าบนหลังคาบ้าน ฯลฯ เป็นนิมิตมงคลในใจก็พอแล้ว

การปฏิบัติบำเพ็ญให้เห็นชัดในธรรมะ ในสัจธรรมในพระโองการจริง มิให้ติดนิมิตใด ๆ ที่ถ่ายรูปแล้วปรากฏอะไรแปลก ๆ ไม่ใช่ไม่มีแต่อย่าอยากให้มี ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยส่งผลให้เป็นการเฉพาะเท่านั้น มิใช่จะเรียกร้องเอาได้

เมาเหล้าจะทำผิดได้ทุกอย่าง ผิดกามได้ไม่ว่ากับพี่น้อง คนใช้ ลูกหลานหรือใคร บางคนเขียนเช็คให้เขาตอนเมาเหล้าถึงกับล้มละลายไปเลย ติดต่อค้าขายสังคมกัน เลี้ยงอาหารเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้ความจริงใจต่อกันจะดีกว่า ไม่ต้องเลี้ยงเหล้า พอเมาเหล้าความอายก็หายหมด

คนที่ผิดหวังเสียใจทำไมดื่มเหล้า เพราะเมาแล้วคิดถึงอยากได้หญิงสาวมาย้อมใจก็ได้ อย่างที่คิดเหมือนดมกาว ดมสารระเหยเสพติด เขาจะหลงภาพลวงตาที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหมือนของจริง สิ่งเสพติดทุกอย่างเสพติดง่ายแต่ตัดใจเลิกยาก

ก่อนออกจากบ้านพิถีพิถันแต่งตัว พอเหล้าเข้าปากผมก็เริ่มปรกหน้า เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ย ไม่เหลือบุคลิกงามสง่าของครูบาอาจารย์ ของสามี ของพ่อ ของปู่ ของคนที่น่าเคารพนับถืออีกเลย พูดหยาบคายไขความลับได้แก้ผ้าได้ไม่อับอาย ฆ่าฟันตบตีด่าทอพ่อแม่ เปิดนรกสิบแปดขุมให้ตัวเองทันที ผู้หญิงดื่มเหล้าเมายิ่งน่าเกลียด ถูกใครรังแกล่วงเกินก็ไม่รู้ตัว มีแต่คนดูถูกเหยียดหยาม ท่านจอมปราชญ์ขงจื้อ จึงได้อุทานด้วยความสมเพชตั้งแต่เมื่อสองพันกว่าปีก่อนว่า “ฉันไม่เคยเห็นผู้กระหายในคุณธรรมเหมือนดังกระหายในกามเลย” เมื่อ “กาม” เข้าครอบงำ “คุณธรรม”ก็หายไป เมาแล้วจิตใจฟุ้งซ่านทะยานอยากผิด ๆ ท้าทายกล้าเสี่ยง ศีลข้อไหนก็รักษาไว้ไม่ได้ 

แพร่งพรายไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ไม่อยู่ในสายตา พบคนเสเพลขี้เหล้าเมายา ถ้าตักเตือนได้ก็ตักเตือนไป ตักเตือนไม่ได้ให้หลีกหนี ถ้าเขาไม่มีรากบุญกุศล อย่าพยายามดึงเขามารับวิถีธรรม เจ้าอาจช่วยเขาไม่ได้ แต่กลับถูกแรงกรรมของเขาฉุดไป เพราะสมาธิความมั่นคงของเจ้ายังไม่อาจเทียบเท่าพระพุทธะ

เจ้าอาจจะรู้สึกว่าอยู่กับวงการธรรมะนาน ๆ เข้าเลยแยกตัวจากสังคมไป แท้จริงแล้วไม่ใช่ ไม่ได้แยกและไม่ต้องแยก เพียงแต่เจ้าจะต้องรู้จักใช้ด้านสว่างของวงการธรรมะไปปรับสภาพด้านที่เป็นความมืดของสังคมภายนอกให้ได้อย่างเหมาะสมเท่านั้น เจ้าไม่ต้องกินเหล้าเมายากับเขา แต่เจ้าก็ยังเป็นคนหนึ่งในสังคมนั้น

รู้ว่ากินเหล้าเมายาผิดศีล แต่ก็ยังทำ ทำแล้วใจคอก็จะหวั่นวิตกไม่เบิกบาน จึงต้องสำนึกผิดทุกวัน หลงใหลอยู่ในความเมาวันแล้ววันเล่า ไม่มีเวลาตื่นใจ ไม่มีสติที่จะมองหานิสัยสันดานไม่ดีของตัวเองจึงไม่ได้แก้ไข รากเหง้าของกุศลบุญก็เน่าเปื่อยไป เวลาเมา ท่อน้ำกว้างแค่คืบก็ก้าวไม่พ้น เมื่อตายแล้วจะก้าวข้ามทะเลทุกข์ ทะเลเกิดตายได้หรือ เมื่อมีชีวิตอยู่ ทิ้งนิสัยสันดานชั่วไม่ได้ ตายแล้วจะไม่ยึดมั่นในอุปาทานได้หรือ ผู้สำรวมในศีลจึงมีปัญญาเป็นหัวใจ ส่วนผู้ที่ยึดมั่นในอุปาทานมีความโง่เขลาเป็นหัวใจ

เหล้า มีกับแกล้มเป็ฯเพื่อนที่เหมาะสมเข้ากันดีคือ เนื้อสัตว์ ส่วนมากคนที่กินเหล้าจึงชอบกินเนื้อสัตว์ คนกินเนื้อสัตว์จึงชอบกินเหล้า เหล้ามีกามตัณหาเป็นเพื่อนคู่ใจ คนที่กินเหล้าจึงมักจะชอบเรื่องกาม คนที่ชอบเรื่องกามจึงชอบกินเหล้า ทั้งหมดนี้เจ้าก็รู้ดีว่าเป็นเหตุที่นำไปสู่หนทางนรก

...................................................................................................................................................................

อ้างอิงบทความ และ รูปภาพ 








วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"ความหมายของปณิธานศีลเจ" โอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม เมตตาประทานกล่อมเกลาญาติธรรม



"ความหมายของปณิธานศีลเจ" โอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม 
เมตตาประทานกล่อมเกลาญาติธรรม ให้ไว้ ณ ประเทศไต้หวัน
...................................................................................................................................................................

ขอแสดงความยินดีกับปราชญ์เมธีทุกท่าน ปัจจุบันเจ้ากรรมนายเวรตามทวงไม่ถึง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ตามติดมาข้างหลัง ไม่ใช่ว่าไม่มีการทวงหนี้

อากาศไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นี่คือ เวลาของวิญญาณกำลังทวงหนี้กรรม วิญญาณสัตว์น้ำนำความโกรธมากมายมาด้วย เพื่อทำให้เศรษฐกิจไต้หวันได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่วิญญาณสัตว์น้ำที่ตามทวงหนี้กรรม ไม่เฉพาะไต้หวันเท่านั้น ยังรวมถึงประเทศอื่นๆด้วย

ปราชญ์เมธีทุกท่านได้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ จากรายการโทรทัศน์ หรือจากข่าวสารต่างๆมากมาย ปราชญ์เมธีคงเข้าใจภัยต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละภูมิภาค


ภูมิภาคนี้ (เจียอี่) มีคนจำนวนมากเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ก็มีคนจำนวนมากเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นอาชีพ ไต้หวันมีท่าปลามากมาย รวมทั้งการประมงตามชายฝั่ง การประมงทะเลน้ำลึก

ไต้หวันได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเต็มที่จากสัตว์น้ำ จากการประมงที่ใหญ่โตมาก

วิญญาณของสัตว์น้ำ เมื่อจะทำการทวงหนี้ ก่อนอื่นจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายก่อน แต่หนี้กรรมที่ชาวบ้านได้ก่อขึ้นจากการฆ่าสัตว์น้ำการทวงหนี้จะติดตามมาทีหลัง

เราพุทธะขอประกาศพระนาม

เราคือ

พระพุทธบรรพจารย์ทะเลใต้     รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา (พระนิพพานดวงวิญญาณสูงสูดไม่มีขีดจำกัด) ลงสู่พุทธสถาน กราบคารวะ
องค์มารดา แล้ว ถามปราชญ์เมธีทุกท่าน
เกิดความเห็นอกเห็นใจกันบ้างหรือเปล่า

(กู่ฝอห่าว) ปราชญ์เมธีทั้งหลายต่างยังมีชีวิตชีวากันดีมาก เชิญนั่งลง (เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทับนั่ง) ปราชญ์เมธีทั้งหลายต่างเรียนรู้พุทธระเบียบกันมาอย่างดี (ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา)

เรามาวันนี้ จะมาร้องทุกข์ให้กับวิญญาณเดิมทั้งหลาย ร้องทุกข์ให้กับเดรัจฉานชาติกำเนิดสี่

ในสัตว์เดรัจฉาน รวมที่เกิดจากครรภ์ เกิดจากไข่ เกิดที่ชื้นแฉะ เกิดโดยผุดขึ้นเอง รวมทั้งมนุษยชาติ คือ เหล่าดวงญาณที่เหลือ

พฤกษชาติไม่มีวิญญาณ ดังนั้นจึงไม่จัดอยู่ในระบบของสิ่งมีชีวิต ถึงแม้จะถูกทำร้ายหรือทำลายพฤกษชาติซึ่งเป็นการขาดเมตตาจิต แต่ไม่ได้เป็นการทำร้ายชีวิต

ในชั้นประชุมนี้ยังมีปราชญ์เมธีท่านใดบ้าง ที่ยังไม่ได้ชิงโข่ว (ตั้งปณิธานกินเจตลอดชีวิต)
หรือว่ามีใครบ้างที่กำลังฝึกกินเจอยู่ หากว่ายังกำลังฝึกฝนอยู่ ต้องเร่งรีบได้แล้ว ให้บรรลุจุดหมายของการกินเจได้สมบูรณ์ อย่าได้ก่อเวรกับเดรัจฉานอีกเลย อย่าได้ก่อกรรมจากการฆ่า หากขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะตั้งปณิธาน จะต้องรับประทานอาหารที่สะอาดไม่มีอาหารคาว

ไต้หวันเป็นเกาะอยู่กลางทะเล คนไต้หวันจึงเคยชินกับการบริโภคผลิตผลจากทะเล

วิญญาณเดิมของสัตว์น้ำเหล่านี้ตามทวงหนี้กรรม

เริ่มจากการทำให้เศรษฐกิจเสียหาย แต่ยังไม่จงใจทำร้ายทำลายชีวิตคน แต่คนที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต นั่นคือผลกรรมตามสนองจากกรรมของแต่ละคนที่ก่อไว้ หรือเกิดเพราะความประมาทไม่ระมัดระวังจึงเกิดการเสียชีวิตขึ้น

ปราชญ์เมธีท่านใดเคยประกอบอาชีพเลี้ยงปลา ยกมือขึ้น

อย่ากังวลใจ ต่อหน้าพระพุทธะทุกคนเสมอภาคกัน เอามือลง ปราชญ์เมธีที่ยกมือ เมื่อเลี้ยงลูกปลาแล้วเกิดความรักผูกพันหรือไม่ บางคนมีความรักผูกพันอยู่ในใจแต่ก็ต้องขายลูกปลาเหล่านั้น

เช่นนั้นเราขอแนะนำตักเตือนปราชญ์เมธี ขอให้จิตใจผูกพันดังกล่าวนี้ เปลี่ยนเป็นการคิดถึงชีวิตปลาเหล่านี้ดีไหม

รักชอบผูกพันกับพวกเขา เจ็บปวดและเสียดายพวกเขา ก็จงอย่าได้ฆ่าทำลายชีวิตพวกเขาอีกเลย

หากเป็นเพราะอาชีพในอดีต ได้เคยก่อกรรมฆ่าชีวิตเขามาก่อน ขอจงตั้งจิตนำบุญกุศลส่วนหนึ่งอุทิศให้เขา ช่วยให้เขาได้ฟื้นฟูในทางที่ดีได้

ในชั้นประชุมนี้ มีปราชญ์เมธีมากมายที่เคยรับประทาน กุ้ง ปลา สัตว์น้ำต่างๆ สัตว์น้ำเหล่านี้มีพลังธาตุลบกับคนอย่างมาก ปราชญ์เมธีทุกท่านจะต้องหมั่นสร้างบุญกุศล ทำการอุทิศเพื่อลบล้างกรรม

ในหน้าที่การงาน การบริโภค การใช้สอย อย่าได้เบียดเบียนสัตว์ อย่าได้รับประทานอาหารคาว เนื้อปลา เนื้อสัตว์ อาชีพฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่าได้กระทำ

อย่าใช้สิ่งของต่างๆ ที่ทำจากหนังสัตว์ เช่น เสื้อหนัง รองเท้าหนัง กางเกงหนัง หมวกหนัง ถุงมือหนัง เข็มขัดหนัง สายนาฬิกาหนัง รองเท้าแตะหนัง กระเป๋าเดินทางหนัง กระเป๋าหนัง พวงกุญแจหนัง โซฟาบุหนัง เก้าอี้หนัง ของใช้สันทนาการ ถุงใส่ไม้ตีกอล์ฟ เครื่องเรือนตกแต่งบ้าน เป็นต้น


สิ่งเหล่านี้ เรามองดู ก็รู้ทันทีว่าทำมาจากหนังสัตว์ จงอย่าใช้เลย อย่าซื้อมาใช้ และอย่าซื้อเป็นของฝาก

สิ่งเล็กน้อยจะต้องสนใจเป็นพิเศษ เช่น สายนาฬิกา พยายามอย่าซื้อที่ทำจากหนังถึงแม้พนักงานขายจะอธิบายกระบวนการผลิตหนังแท้หนังเทียม แต่พนักงานขายมักจะไม่ทราบต้นกำเนิดของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุด คือไม่ซื้อของที่มีลักษณะว่าทำจากหนัง

ตลาดค้าขายทั่วไป มีของกินมากมายหลายอย่างที่มีส่วนผสมอาหารคาว แต่ไม่ถูกตรวจพบ เช่น ทอฟฟี่ ขนมปังกรอบ ลูกอมดับกลิ่นปาก ขนมเค้ก ขนมปังปอนด์ แคปซูล อาหารเสริมเพื่อสุขภาพของกินเหล่านี้ เราจะต้องสนใจส่วนผสมเป็นพิเศษ

เครื่องสำอางทาหน้า ทาผิว ทาตัว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสนใจส่วนผสมด้วย ส่วนผสมปรุงแต่งของสินค้าเหล่านี้มักจะระบุเป็นภาษาอังกฤษ และมีศัพท์เฉพาะมากมาย คนทั่วไปอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ หากมีความสงสัยส่วนผสมเหล่านี้ สามารถโทรศัพท์สอบถามโรงงานผู้ผลิต หรือบริษัทผู้นำเข้าจำหน่ายโดยตรง อย่างนี้จะไขความไม่รู้ของเราได้

หลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปลาหรือเนื้อสัตว์ ไขมันปลา ไขมันสัตว์ อวัยวะภายในของสัตว์ ของที่ใช้ในชีวิตประจำวันง่ายต่อการทำให้เรามองข้าม

อาหารที่รับประทานยิ่งต้องใส่ใจ เพราะเป็นของที่เรากินลงในท้อง มีอาหารบางอย่างที่ถึงแม้จะเขียนว่า เจทานได้ แต่ว่า แต่ละประเทศ แต่ละศาสนา คำว่า เจ มีความหมายแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจะต้องอ่านส่วนผสมให้ละเอียด

ของกิน หรือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หากขาดความใส่ใจ ซื้อผิด จะต้องนำไปทิ้ง อย่านำไปแจกจ่ายให้คนอื่นนำไปใช้หรือนำไปกิน หากนำไปให้คนอื่น เท่ากับช่วยคนอื่นก่อกรรมการฆ่า ทำให้เขาสนับสนุนการฆ่า ถึงแม้การทิ้งไป จะเป็นการทอนบุญวาสนา แต่เมื่อพิจารณาใคร่ครวญดูแล้ว ระหว่าง ทอนบุญวาสนาของตนเอง กับ กรรมจากการฆ่า สองกรณีนี้ก็ย่อมต้องเลือกสิ่งที่เบากว่า ดังนั้นลองวิเคราะห์ใคร่ครวญดู ยอมทอนบุญวาสนาแต่ไม่ก่อกรรมจากการฆ่า

ที่จริงการทอนบุญวาสนาเป็นสิ่งไม่ควรทำ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการทอนบุญวาสนาตนเอง ระหว่างซื้อของกินของใช้ จะต้องใส่ใจดูส่วนผสมเป็นพิเศษ

สัตว์ต่างๆเปรียบเหมือนกับสิ่งบูชายัญแก่เศรษฐกิจ แต่ละประเทศเพื่อทำให้เศรษฐกิจของตนเจริญเติบโต เพื่อให้บรรลุมาตรฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจ ต่างได้ทำร้ายสัตว์ต่างๆไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น เรื่องเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ปลา หนังสัตว์ ฯลฯ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ทั้งกิน ทั้งขายเอารายได้เข้าประเทศ

การประมง การปศุสัตว์ สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญก้าวหน้า ความเป็นสมัยนิยม วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ความก้าวหน้าของประเทศ แต่สิ่งดังกล่าวล้วนไปเกี่ยวข้องทำลายชีวิตสัตว์

สรรพสัตว์ต่างมีชะตาชีวิตไม่เหมือนกัน ประเภทของสัตว์แบ่งชะตาชีวิตและการถูกกระทำโดยประมาณ ดังนี้
สัตว์ที่ใช้บริโภค เช่น โค กระบือ แพะ หมู เป็ด ไก่ ปลา เป็นต้น
สัตว์ที่ใช้ทดลอง เช่น ลิง หนู เป็นต้น
สัตว์เลี้ยงที่รักใคร่โปรดปราน เช่น แมว สุนัข นกสวยงาม ปลาสวยงาม เป็นต้น
สัตว์ใช้แรงงาน เช่น โค กระบือ ช้าง ม้า ลา จามรี อูฐ สุนัขลากเลื่อน สุนัขเลี้ยงแกะ เป็นต้น
สัตว์ที่ช่วยสังคมและให้ความสุขแก่สังคม เช่น สุนัขจูงคนตาบอด สุนัขตำรวจ เป็นต้น
สัตว์เลี้ยงดู ประเภทนี้ขอบข่ายกว้างมาก จึงไม่นำมายกตัวอย่าง
สัตว์ที่เลี้ยงไว้ในสวนสัตว์
สัตว์ที่ให้ความบันเทิง เช่น สัตว์ที่อยู่คณะละครสัตว์ ช้าง ปลาวาฬ ปลาโลมา
สัตว์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น แกะที่เลี้ยงไว้ตัดขน ยังมีสัตว์อีกจำนวนมากที่มีมูลค่าสูงผิดธรรมดาจาก ขน หนัง งา เขา เช่น เสือ เสือดาวหิมะ ช้าง นกยูง ฯลฯ คนจับสัตว์เหล่านี้มาถลกหนัง เอาหนังและขนทำอาภรณ์สวมใส่ ทำเครื่องประดับตกแต่ง ทำเป็นผลิตภัณฑ์ราคาสูง หรือแม้แต่ กระจง จระเข้ วัว แพะ หมู งู นกกระจอกเทศ แรคคูน สัตว์เหล่านี้ ล้วนถูกทารุณกรรมถลกหนังมาทำเป็นสินค้า

ปลาชนิดหนึ่งเรียกว่า ปลาแฮกฟีช เป็นปลาที่ไม่มีขากรรไกร ขึ้นชื่อว่าหนังสวยงาม นุ่ม ราคาแพงมาก ปลาแฮกฟีชนี้ที่ ไต้หวันก็มีการจับได้

สัตว์เหล่านี้ก่อนจะเกิดกายยังโลกมนุษย์ ได้ผ่านการพิจารณาลงโทษมาอย่างเข้มงวดแล้ว เกิดมามีหนังมีขน แต่กลับทำให้คนจับจ้องมองเพราะอยากจะได้ ถลกหนังเขาทั้งเป็นๆ ดีแต่เอาเนื้อของเขา ดีแต่เอาหนังของเขา ดีแต่เอาขนของเขา ทำให้เขาทรมาน เจ็บปวดมากเหลือเกิน มีชีวิตอยู่สู้ตายดีกว่า

มนุษย์มีความหลงใหลกับผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากหนังสัตว์ฟอก ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์ให้ความอบอุ่น และป้องกันความหนาวได้ แต่นี่เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเลย สัตว์เหล่านี้เพราะว่ามีขนและหนังที่สวยงาม จึงถูกมนุษย์ฆ่า

เพราะเหตุนี้บรรยากาศความแค้นของพวกเขาจึงรุนแรงมาก ทำให้ภัยพิบัติในโลกมนุษย์เกิดขึ้นอยู่เนืองนิตย์

ผู้ที่อยู่ในภูมิภาคที่มีอากาศหนาว มักสวมใส่หนังสัตว์ ทั้งเสื้อ หมวก ถุงมือ รองเท้า พวกเขาเหล่านั้นยอมรับว่าเครื่องหนังสัตว์ให้ความอบอุ่นแก่เขา หนังสัตว์เหล่านี้ล้วนมาจากสัตว์ทั้งนั้น 

มนุษย์ในยุคโบราณได้ค้นพบว่า หนังสัตว์ให้ความอบอุ่น ดังนั้นจึงฆ่าสัตว์เพื่ออาศัยหนังของเขา

ที่จริงการสร้างความอบอุ่นของมนุษย์นั้น มีหลายวิธี คุณภาพเครื่องนุ่งห่มหลากชนิดต่างให้ความอบอุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสัตว์มาให้ความอบอุ่น

หากใช้สติปัญญาความสามารถช่วย โดยใช้ขน (ไม่รวมหนัง) หรือผลิตผลอื่นๆ มาช่วยให้ความอบอุ่นได้

มนุษย์เอาหนังจากสัตว์ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมที่สุด เป็นปรากฏการณ์ที่ขาดมนุษยธรรม มนุษย์มีสิทธิของมนุษย์ กฎหมายของแต่ละประเทศ ต่างบัญญัติไว้อย่างละเอียดถึงการคุ้มครองรักษาสิทธิมนุษยชน สิ่งของทรัพย์สินต่างๆ ก็มีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนแล้วสัตว์ล่ะมีสิทธิอะไร นอกจากสัตว์ที่บำรุงเลี้ยง สัตว์ที่โปรดปราน แล้วสัตว์อื่นๆล่ะ สัตว์ที่ใช้บริโภค สัตว์เลี้ยงทางเศรษฐกิจ เหล่านี้มีสิทธิอะไรบ้าง


มนุษย์สามารถเพาะพันธุ์สัตว์เศรษฐกิจได้จำนวนมาก จึงเข่นฆ่าทำลายเอาตามใจชอบ สัตว์เหล่านี้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนก็ได้แต่จำยอมถูกฆ่าและถูกเชือดเฉือน แล้วแต่คนจะจัดแจง

สัตว์กับคนที่ได้เกิดมาอยู่ร่วมกันบนโลกนี้ ล้วนเป็นการสนองกรรม ต่างได้รับการพิพากษาตัดสิน แต่เคราะห์กรรมชะตาชีวิตของสัตว์ เมื่อเทียบกับคนแล้วแตกต่างกันมาก ดังนั้นสัตว์ที่ถูกถลกหนังเหล่านี้ ต่างเกลียดชังและโกรธแค้นมนุษย์มากที่สุด


มนุษย์มักพูดกันว่า “ในสังคมโลกนี้ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อผู้แข็งแรง” โลกนี้เป็นจริงอย่างที่ว่าผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อผู้แข็งแรง มนุษย์เพียงอาศัยว่าตนเองมีอาวุธเกรียงไกรแข็งแรง อาศัยว่าตนเองมีร่างกายใหญ่โต ดังนั้นจึงกดขี่บังคับขู่เข็ญสัตว์ได้ ทำร้ายชีวิตสัตว์ได้

ปราชญ์เมธีทุกท่านฟังเข้าใจไหม (เข้าใจ) แม้ว่าจะเข้าใจ ปราชญ์เมธีที่ยังไม่ได้ชิงโข่ว โปรดอย่าไปกินอาหารคาวอีก อาหารคาวง่ายต่อการทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและโรคอื่นๆที่บังเกิดขึ้นพร้อมกัน

ถึงแม้ในทางเวชศาสตร์ มีหมอบางท่านพยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่ว่า เนื้อสัตว์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถแก้ไขการเจ็บไข้ได้ป่วยให้ดีขึ้น

แต่ทว่า นั้นคือยังไม่เป็นผลการเจริญก้าวหน้าของการแพทย์ แต่ถ้าผ่านไปอีกหลายร้อยหลายพันปี การแพทย์ยิ่งเจริญก้าวหน้า มนุษย์ผ่านการทดลองจนมีความชำนาญ ทำให้ชัดเจนในการตรวจสอบ จึงทราบว่า การกินเนื้อสัตว์จะเป็นผลดีต่อร่างกายแม้แต่น้อยนิดก็ไม่มี

จากความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์ กินเนื้อสัตว์จะทำให้เลือดเกิดโรคพยาธิ เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย

ในอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็น กินเนื้อสัตว์ก่อกรรมการฆ่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์ ถึงแม้สิ่งของที่ทำจากเครื่องหนังไม่ได้กินลงท้อง เรานำไปใช้ก็ก่อให้เกิดกรรมจากการฆ่า

ขอถามปราชญ์เมธีทุกท่าน หากประกาศขอรับสมัคร “ขอให้ถลกหนังของตัวเองออกมา” มีใครยินยอมบ้างไหม แล้วสัตว์ที่ไหนจะยินยอมเต็มใจมอบหนังให้กับมนุษย์ นี่เป็นการทารุณกรรม สัตว์บางตัวทนไม่ไหวถึงกับขับถ่ายเรี่ยราดออกมา

นอกจากผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์แล้ว ที่เห็นได้ชัดในชีวิตประจำวัน เราใช้เครื่องประดับหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์ เครื่องประดับกระจุกกระจิก เข็มกลัดติดเสื้อ กิ๊บติดผม ของเล็กๆน้อยๆ จำนวนมากคงมีทำจากหนังสัตว์ ต้องระวังอย่าซื้อมาใช้

การอ้างว่าผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อผู้แข็งแรง เป็นเรื่องที่เหี้ยมโหดทารุณมาก ไม่มีมนุษยธรรมเลย ปราชญ์เมธีทุกท่านต่างมาถึงประตูพุทธะกันแล้ว เข้าใจหลักธรรมเหตุต้นผลกรรมกันดี อย่าเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กกันเลย จะต้องปลูกฝังเพาะเลี้ยงจิตเมตตา จะต้องสำแดงความเห็นอกเห็นใจกัน ต้องรักเอ็นดูสรรพสัตว์ประหนึ่งรักเอ็นดูลูกหลานตนเอง

หนี้เวรหนี้กรรมค่อยๆ ลบล้าง ลบล้างแต่ละเรื่องๆจนหมดสิ้น ถึงคราวถูกทวงหนี้เวรกรรม อัตราส่วนจะลดลงได้มาก

ภัยพิบัติเกิดขึ้นโดยมิได้คาดฝัน ล้วนเกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย

ถึงแม้จะถูกทวงหนี้กรรม เวลาไหนจะถูกทวงหนี้กรรม เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม่มีใครคาดหมายได้ ก่อนหน้าได้สร้างบุญวาสนาไว้จะคุ้มครองชีวิตได้

ไม่ใช่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะยินดีได้บุญวาสนาจากเจ้า ยินดีจะได้ทรัพย์สินของพวกเจ้า บุญวาสนาเหล่านี้จะสนองตอบเจ้าเอง ล้วนอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปัดเป่าให้ บุญกุศลที่ได้บันทึกไว้บนสวรรค์ ไม่มีใครตัดทิ้งได้ เว้นเสียแต่เจ้าทำไม่จริงจัง

พุทธสถานที่มีรูปลักษณ์ ทุกอย่างที่มีรูปลักษณ์ทั้งหลายจำเป็นต้องพึ่งพาเงินทองที่มีรูปลักษณ์มาพยุงรักษา

แต่บุญกุศลที่ไม่มีรูปลักษณ์ ได้แต่อาศัยการกระทำที่มองเห็นมาแปรเปลี่ยน

ไม่เพียงแต่ให้ทรัพย์เป็นทานจึงจะได้บุญกุศล วิทยาธรรมเป็นทาน แรงกายเป็นทาน อภัยทาน ล้วนได้บุญกุศลมิอาจประมาณ

ขอเพียงแต่จริงใจและศรัทธาจริง หนึ่งจิตหนึ่งใจ หมดจิตหมดใจ วิทยาธรรมเป็นทาน แรงกายเป็นทาน อภัยทาน ล้วนบุญกุศลมิอาจประมาณ

ขอเพียงแต่ลบล้างหนี้เวรหนี้กรรม นำบุญกุศลไปลบล้างอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลลบล้างหนี้กรรม จึงจะหลุดพ้นแท้จริง จึงสามารถหลบภัยกำแพงเมฆได้ จึงจะสามารถหนีรอดจากการตามติดทวงหนี้กรรม

กล่าวถึงตอนนี้ จะหยุดพักก่อน บนกระดานมีเพลงธรรม ขอให้ทุกท่านอ่านพร้อมกัน

“ย้อนมองสี่ฤดูผันผ่าน คลื่นยักษ์โถมกระหน่ำตระหนกขวัญ ดังต้นไม้ที่ร่วงโรยชราวัยแม้ผมก็ขาวโพลน พิณสี่สายกระซิบคร่ำครวญกล่าว


กาลวาระความมืดและขุ่นมัวมาถึง ต้องพายเรือทวนน้ำฟันฝ่าไป เบื้องบนส่งมอบภาระมาทดสอบความมุ่งมั่น สาบานว่าจะฉุดช่วยเวไนยให้เป็นพุทธะ


ภัยพิบัติต่างๆนานาโหมกระหน่ำ แม้แต่ความฝันก็ยังพังทลาย ชีวิตที่ทุกข์ทนแร้นแค้นยิ่งหนักอึ้งทุกวัน ไม่มีเสียงใดๆ เปล่งออกมาถามเบื้องบนได้ มีเพียงน้ำตา


การดำเนินปฏิบัติธรรม ต้องทำด้วยจิตใจเมตตา ปลดปล่อยความอาฆาตพยาบาทนับหมื่นปี ย้อนกลับไปสู่ความเรียบง่ายสัตย์ซื่อที่แฝงเร้น ชีวิตนี้เปรียบดังเมฆที่ล่องลอยกลางอากาศ”

ทำนอง: หว่อโหย่วอีเหลียนโยวเมิ่ง
เนื้อร้อง: กวนขู่จื้อจินซิว เห็นความทุกข์จึงรู้รุดบำเพ็ญ

เพราะมนุษย์ทำบาปโหดร้าย จึงเกิดภัยพิบัติเนืองๆ เหตุที่เกิดภัยพิบัติ เป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ก่อขึ้นเอง มนุษย์ไม่ต้องโทษอะไรทั้งสิ้น

หลายชาติมาแล้วมนุษย์ได้ทำความผิดไว้มากมาย ทำร้ายทำลายมาแล้วไม่รู้กี่คน ฆ่าสัตว์ไปแล้วเท่าไหร่ ตัวเองยังไม่รู้เลย

ถึงแม้ว่าปราชญ์เมธีทุกท่านได้บำเพ็ญธรรมในชาตินี้ สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี สี่สิบปี... แต่ว่าหนี้กรรมในชาตินี้ยังชำระไม่หมด ยิ่งสำมะหาอะไรกับกรรมในอดีตชาติ

มนุษย์หลายชาติมาแล้ว เคยชินกับการกินเนื้อสัตว์จนกลายเป็นนิสัย หลายชาติก่อนหน้านี้ได้กินเนื้อเวไนย กินชีวิตสัตว์ เจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ต่างก็ต้องการทวงหนี้เหมือนกัน

ประเทศไต้หวันทำร้ายชีวิตสัตว์น้ำมากเกินไปดังนั้น ไต้หวันจึงมักประสบความทุกข์ยากจากวาตภัย หรือไม่ก็ภัยแล้ง ภัยส่วนใหญ่ที่ประสบ ล้วนเนื่องมาจากการทวงหนี้กรรมของเหล่าวิญญาณเดิมสัตว์น้ำ ยิ่งเพิ่มเหตุปัจจัยจากการเมือง การปกครอง สังคม สิ่งแวดล้อม

ดังนั้น คนไต้หวันจึงมักทุกข์ทรมานเพราะน้ำ ถึงมีน้ำใช้ดื่มกินแต่คุณภาพก็ไม่ค่อยดีนัก

ชาวไต้หวันมีชีวิตอยู่บนเกาะ ได้ทำบาปกับกุ้ง หอย ปู ปลา ไว้มาก กลายเป็นกรรมร่วม กรรมร่วมเหล่านี้ ประชากรไต้หวันทั้งหมดมีส่วนแบกรับ

บางคนอาจจะรู้สึกว่า ตนเองเป็นชนชั้นสูง มีอำนาจเงินทองกับแค่เรื่องน้ำ คงไม่ทำให้เกิดทุกข์ร้อน แม้น้ำขาดแคลนก็ไม่กังวล เพราะด้วยอำนาจวาสนาจะได้ใช้ในสิ่งที่ขาดแคลนก่อนคนอื่น

สิ่งเหล่านี้ล้วนสนองมาจากบุญวาสนาของเขา แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่บุญวาสนามีไม่มากพอ ซ้ำร้ายกลับไปก่อกรรมการฆ่ามากมาย แน่นอนจะต้องมีประสบภัยจากน้ำ

มีเพลงให้เมธีร่วมกันร้องหนึ่งเพลง อ่านเนื้อเพลงพร้อมกัน

ปลายกัปเศร้ารันทด เสียงตำหนิติเตียนทุกข์เวทนา
อากาศหนาวเหน็บสุดหัวใจ ลมคาวฝนเลือดล้อมรอบโลกีย์
ไม่มีทางหลบหลีก คฤหาสน์พันล้าน
อิทธิพลร้ายกาจ หนี้กรรมตามติดพันธนาการ
อารมณ์วุ่นวาย โรคาพาธกายติดโรคร้าย
ในนอกกายทุกข์ทรมาน เสียงรักเมตตาอบอุ่นนุ่มนวลฉุดช่วย
มาจากพระธรรมมารดา (พระนิพพาน,God)
พุทธบุตรคนเดิมปัญญาสูงส่ง ไม่จมอยู่ในโลกโลกีย์
วิทยาศาสตร์พัฒนา คฤหาสน์ทรัพย์สมบัติ
ใช้ปัญญานำพา ความตายไม่โอนอ่อน
ฟื้นคืนจิตเดิมแท้ เจริญรอยธรรมะ
ฟ้าดินกำหนดชะตากรรม สิ่งมีชีวิตเกิดตามธรรมชาติ
ต่างมีชะตาชีวิต ละเมิดมโนธรรมเคียดแค้นกัน
มูลเหตุภยันตราย ไม่ทำให้ใจคนสงบ
ถูกปรับปรำเสียใจภายหลัง ยุคขาวโปรดนิรโทษกรรม
ตักเตือนขอร้องให้ปรองดองกลับสงบเงียบ
อโหสิกรรมคิดทบทวนดู บำเพ็ญธรรมย้อนมองส่องตน
นำบุญกุศลไถ่ถอนกรรม สามภพโชคดีร่วมกัน

ทำนอง: หัวใจมนุษย์ของดีล้ำค่า
ชื่อเพลง: ในทุกข์พบหลักธรรมจริง

พุทธบุตรคนเดิม อย่าจมอยู่ในสระน้ำโลกโลกีย์ เบื้องบนเห็นปราชญ์เมธีดั่งมังกร มังกรสามารถทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ให้นำมังกรมาเปรียบเทียบ

ปราชญ์เมธี ท่านอย่าได้นำตนเองไปเปรียบเทียบกับกุ้ง ปลา อย่าเปรียบเทียบตัวเองเหมือนหนอนตัวเล็กๆ จะทำให้บั่นทอนกำลังใจตนเองให้ลดลง จะต้องมีความมุ่งมั่นก้าวไกล

เปรียบตนเองเหมือนมังกร จึงจะมีความมุ่งมั่นยิ่งใหญ่ สติปัญญาของปราชญ์เมธีแต่ละท่านเฉียบแหลม ความสง่าในวิชาความรู้กับจิตเมตตาล้วนยิ่งใหญ่ แต่ต้องนำออกไปสำแดงออกให้ได้ ต้องรู้และดำเนินด้วย

หนังสือจีนโบราณได้กล่าวไว้ว่า (เหยิน) ความเมตตา คือ (เหยิน) มนุษย์ รวมความหมายคือ ธรรม คำว่า (เหยิน) ความเมตตา กล่าวไว้ว่า มีพร้อมคุณความดี และมีใจเมตตาอารี นั่นคือ รู้ หรือ ปัญญา

อีกคำหนึ่ง (เหยิน) คือ ความประพฤติ การปฏิบัติ การกระทำ ความรู้ (ปัญญา) กับการปฏิบัติจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ รู้และปฏิบัติ ถึงแม้จะมีจิตเมตตา กรุณา จะต้องนำมากระทำ เช่นนี้แล้วรักใคร่ถะนุถนอมสรรพสิ่งในโลกนี้ จะต้องไม่ทำร้ายทำลายสรรพสิ่ง ควรประพฤติ การกระทำ ทุกอย่างอย่าได้ไปทำร้ายสรรพชีวิตในโลกนี้

หนังสือโบราณยังกล่าวไว้ว่า พระอริยะอาจารย์ร้อยชาติ เป็นพระอริยะได้ ย่อมสามารถรักษาคุ้มครองคุณธรรมและความประพฤติของตนได้ และยังนำคุณธรรมความประพฤติให้เจริญรุ่งเรือง

นำไปส่งเสริมคุ้มครองรักษาผู้อื่น แม้กระทั่งปรกแผ่ลูกหลานพันหมื่นชั่วคน นำคุณธรรมความประพฤติส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรือง นั่นก็คือ ธรรมะ

พระอริยะเจ้ามีจิตเมตตากรุณาพร้อม มีความใจกว้างอย่างมโหฬารพร้อม นั่นคือ กัลยาณชน ที่มีคุณธรรม ที่โบราณได้กล่าวไว้ว่า กัลยาณชนที่มีคุณธรรม ไม่เป็นขนบธรรมเนียมที่แพร่กระจายออกไป ไม่แสดงออกแปลกๆ ใช้ความประพฤติอันดีงามเลี้ยงร่างกาย ชำระร่างกายตั้งอยู่ในคุณธรรม ถือเมตตา กรุณา เป็นพื้นฐานของตนเอง สำแดงความประพฤติอันดีงามให้เป็นจริง

ดังนั้น พระอริยะเจ้าจึงมีความประพฤติอันดีงาม ความประพฤติดีงามของกัลยาณชน เดินหน้าพร้อมที่จะคุ้มครองผู้อื่นให้อยู่อย่างร่มเย็น ถอยหลังพร้อมที่จะดูแลคุ้มครองตนเอง เดินหน้าและถอยหลังล้วนไม่สูญเสียหลักการ เดินหน้าถอยหลังล้วนระมัดระวัง

กัลยาณชน ก่อนอื่นต้องรักษาความประพฤติอันดีงามของตนเอง ไม่สูญเสียภาวะฟ้า อันดับต่อมารักษาการกระทำของตนอย่าให้กระทำผิดพลาด เพียงแต่รักษาจิตภาวะของตนเองไว้ ความประพฤติโดยธรรมชาติไม่ง่ายที่จะผิดพลาด ถึงแม้ว่ามีเจตนาดีของจิตภาพ แต่เกิดความผิดพลาดขึ้น มีความผิดพลาดพลั้งเช่นนี้ ในแง่กฎแห่งกรรมเป็นความผิดที่เบามาก

แต่คนที่ความประพฤติดี การกระทำไม่ผิดพลาด แต่ทว่า ทางด้านจิตใจเป็นคนมีความคิดชั่วร้ายในจิตใจ หากว่ายังดำรงความคิดชั่วร้ายไว้ ความประพฤติง่ายต่อการเบี่ยงเบน ถึงแม้จะมีบางขณะทำดีประพฤติดี แต่ในที่สุดความพลาดพลั้งก็เกิดขึ้น ปรากฏลักษณะรูปร่างดุร้ายออกมา

ในธรรมกาลยุคขาว ปราชญ์เมธีจะต้องนำคุณธรรมความดีของฟ้าเบื้องบนแพร่กระจายในหมู่คน ใช้โอกาสที่เบื้องบนมีกรุณาธิคุณยกโทษให้ ตอบแทนคุณความดี นำบุญกุศลคุณงามความดี คุ้มครองปกป้องญาณเดิมของสามโลก

ในเวลาเดียวกัน ช่วยเวไนยสัตว์สามภพที่ได้รับทุกข์ยากลำบาก ถึงแม้ในยมโลก การลงโทษและการพิจารณาความดีชัดเจน ตัดสินยุติธรรม แต่ว่าผลสุดท้ายเป็นการชี้แจงกล่อมให้หยุดยั้งความคิดที่จะทำผิด

สิ่งที่จะนำมาเผยแพร่คือ หลักธรรมจริงของฟ้าดิน

ถ้าประพฤติร้าย มีผลตอบสนองร้าย เป็นเพียงแค่การเตือนเวไนยสัตว์ให้หยุดยั้ง นี่เป็นเพียงวิธีหนึ่ง วิธีที่สองเป็นเพียงการหยุดยั้งแก้ไขจิตใจคน จิตใจคนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี จึงเป็นหนึ่งในวิธีหยุดยั้งการกระทำผิด

หากจิตใจคนเปลี่ยนไปในทางที่ดี อยู่ในทำนองคลองธรรม จิตใจคนไม่เบี่ยงเบน ไม่เห็นแก่ตัว การลงโทษในยมโลกก็คงจะไม่มีในโลกมนุษย์ ทุกคนดำเนินไปโดยธรรมชาติย่อมไม่เกิดภัยพิบัติ

คนทั่วไปมักจะพูดว่าตนเองเป็นคนดี เพราะไม่ฆ่าคน ไม่วางเพลิงเผาบ้านเรือนคนหนึ่ง จึงว่าตนเป็นคนดี
แต่ทว่ายังกินอาหารคาว ยังซื้อของใช้ที่ทำจากหนังแท้ ที่จริงแล้วนั่นคือ คนโหดเหี้ยม แท้จริงนั่นคือ ในจิตใจมีเมล็ดพันธุ์แห่งความเหี้ยมโหดซ่อนเร้นไว้ (จิตใต้สำนึกของความเป็นพุทธะไม่สมบูรณ์) ซ่อนเร้นส่วนผสมของความเหี้ยมโหด เมื่อกระทำตนแบบนี้ไม่นับว่าเป็นคนดี

ดังนั้น ความประพฤติจึงไม่เป็นคนชิงโข่วที่สมบูรณ์ ไม่ถือว่าเป็นคนกินเจที่สมบูรณ์

ฟ้ามีกฎของฟ้า ยมโลกก็มีกฎของยมโลก กฎระเบียบของฟ้ามีให้รางวัลหรือลงโทษแยกชัดเจน เที่ยงธรรมอย่างยิ่ง ไม่ลำเอียงอคติคนหากได้รับการลงโทษจากยมโลก ย่อมมีผิดบาปจริงตามคำตัดสินนั้น ในยมโลกการลงโทษแต่ละวิธี การพิจารณาตัดสินล้วนวินิจฉัยชี้ขาดได้ชัดเจน ไม่ลำเอียง คนหากรักษากฎของฟ้า จิตหนึ่งใจเดียว มุ่งทำความดีมุ่งแต่ธรรมะ หนึ่งจิตมุ่งต่อฟ้า เบื้องบนจะต้องให้รางวัลในความดีนี้

ปราชญ์เมธีที่ยังไม่ได้ชิงโข่ว หรือที่ยังกินอาหารคาวอยู่ พยายามอดทนรสชาติอาหารคาวอย่างช้าๆ อดทนรสชาติอาหารที่คิดว่าหอมหวนเหล่านี้ อย่าได้กินอีก พยายามเลิกกินปลา เลิกกินเนื้อ ค่อยๆเลิก หากได้กลิ่นของเนื้อสัตว์ กลิ่นของปลา ก็อย่าได้พยายามคิดที่จะกินอีกเลย เมื่อนั้นจะสัมฤทธิ์ถึงจิตเมตตากรุณา

บำเพ็ญธรรมในอาณาจักรธรรมยุคขาว “ข้างในบำเพ็ญตนเอง เลี้ยงบุญวาสนา ข้างนอกเกิดจิตเมตตาออกฉุดช่วยคนพาคนรับธรรม”เป็นการแสดงออกถึงการเผยแผ่เชิดชูคุณธรรมความประพฤติ นั่นคือ พิทักษ์จริยธรรมคุณธรรม

ครั้งนี้เป็นการจัดประชุมธรรม มีผลให้เบื้องบนดึงภัยพิบัติกลับคืน ทำให้ภัยพิบัติลดความรุนแรง แต่ไม่ถึงขนาดทำให้งดหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด

นี่หมายถึง ถือโอกาสที่เบื้องบนเมตตาประทานนิรโทษกรรมคุณธรรมพระโองการฟ้าเบื้องบน พิทักษ์คุ้มครองเวไนยสัตว์ มิต้องให้ได้รับภัยพิบัติและความทุกข์

สัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่มีคนกล้าทำร้าย อาจมีบางคนลักลอบล่า แต่เมื่อเปรียบเทียบจำนวน สัตว์คุ้มครองถูกทำร้ายน้อยกว่าสัตว์ที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย แต่สัตว์ที่ไม่ได้รับการคุ้มครองเล่า?

ปราชญ์เมธีทุกท่านต้องกำหนดให้เขาอยู่ในขอบเขต อย่าไปทำร้ายสัตว์เหล่านั้น และยังต้องช่วยกันรณรงค์เผยแพร่ เพื่อให้โลกนี้ลดจำนวนการฆ่าให้น้อยลง ดังนี้จึงลดบรรยากาศความแค้นลงได้บ้าง

ขอให้ปราชญ์เมธีทุกท่านใคร่ครวญดู แรกๆพระบรรพจารย์จินกงทดสอบพระอาจารย์ พระอาจาริณีของท่านอย่างไร ถึงแม้เป็นหลักธรรมจริง ว่าไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ก่อหนี้เวรกรรม นี่เป็นหลักที่ถูกต้องที่สุด ไม่เป็นเพราะว่าพระบรรพจารย์บอกว่ากินเนื้อสัตว์ได้ ทำให้เจแตกผิดศีลปาณา นี่เป็นเพราะตัวเองไม่รู้แจ้งชัด อะไรถูกอะไรผิด เป็นเพราะปัญญาไม่แสดงออก จึงไม่รู้ผิดรู้ถูก

ปราชญ์เมธีทุกท่านต่างได้รับผลไม้กันแล้วใช่ไหม บุคลากรหากยังทำงานอยู่ มารับผลไม้ไม่ได้ หลังจากปิดชั้นเรียนแล้วค่อยทยอยมารับก็ได้

นี่เป็นเพราะเบื้องบนมอบให้ เป็นผลไม้พุทธะต้องถนอมรักษาให้ดีๆ ทำจิตใจสะอาดหมดจรดแล้วค่อยกิน อย่ามีใจคิดฟุ้งซ่าน คิดในทางร้าย ไม่เช่นนั้นแสงสว่างจากเบื้องบนที่จะมาช่วยค้ำจุน จะไม่เป็นผลเลย

หากใครยังไม่ได้ชิงโข่ว ยังติดรสชาติติดกลิ่นอาหารคาว จากนี้ไปในทุกวัน ลองปรับปรุงวิธีปรุงอาหารสามมื้อ หรือจะไปหัดปรุงที่สถานธรรมก็ได้ คนในสถานธรรมมีวิธีการปรุงอาหารเจหลากหลาย

อาหารการกินมากมายท่ามกลางฟ้าดิน พืชผัก ผลไม้ อาหารธรรมชาติอย่างอื่น นี่เป็นการประทานจากเบื้องบนให้มนุษยชาติ เป็นพระคุณฟ้า

คนจะต้องเพิ่มการถนอมรักษ์ใช้ให้เป็นประโยชน์ หากไม่รักษา ไม่รู้จักเพิ่มประโยชน์ กลับกล่าวโทษเบื้องบนที่ประทานของที่ไม่ถูกปากตนเอง นี่มิเท่ากับตนผิดบาป ปรักปรำเบื้องบนหรือ

ปราชญ์เมธีทุกท่าน เข้าใจคำพูดของเราไหม มีหลักธรรมไหม หากว่าปราชญ์เมธีทุกท่านเข้าใจกันแล้ว เราจะไม่กล่าวมากความอีก วาจาไม่จำเป็นต้องพูดมาก แต่ขอให้มีแก่นสาร คนฟังไม่จำเป็นต้องฟังมาก แต่อยู่ที่ซึมซับได้มากน้อยแค่ไหน ขอเพียงปราชญ์เมธีทุกท่านซึมซับคำพูดที่เรากล่าววันนี้ได้เต็มร้อย และนำไปทำให้เกิดเป็นจริงให้ได้ วาจามิได้อยู่ที่มากหรือน้อย หากว่าเป็นคำพูดเพียงสิบนาที แต่สามารถทำให้สำเร็จอริยกิจได้

ไม่กล่าวมากความ กราบลา พระอนุตตรธรรมมารดา

จากใจ...ปราชญ์เมธีทุกท่านต่างพยายามทุ่มเท เพื่อทำความเข้าใจและรู้ชัดเสียงแห่งญาณเดิมสามภพ
ขอจงเข้าใจและรู้ชัด เกี่ยวกับเหตุต้นผลกรรมและการตอบสนอง จะต้องศึกษาค้นคว้าให้มาก
แม้จะเข้าใจและรู้ชัดเหตุต้นผลกรรม แต่ในการประพฤติปฏิบัติ ดำริในใจต่างๆ จะต้องประหวั่นระมัดระวัง มีความสำรวมเป็นอย่างยิ่ง มิกล้าทำผิดแม้แต่น้อย

สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ในชีวิตประจำวัน จะต้องนำไปทำ นี่ก็คือ การดำเนินธรรมะ ธรรมะจะอยู่ในชีวิตปะจำวัน อย่าได้เผอเรอละเลย

เราจะนำญาณเดิมกลับ หวังอย่างยิ่งว่าวันนี้ ญาณเดิมของสัตว์น้ำจะได้รับบุญกุศลส่วนหนึ่ง หวังปราชญ์เมธีทุกท่านจะให้ความช่วยเหลืออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้

อย่าลืมที่จะมลายเหตุต้นผลกรรม มลายหนี้กรรมของตัวเอง ขอให้กรรมจากการฆ่าในชาตินี้และอดีตชาติมลายให้หมดสิ้น จึงจะไม่เกิดภัยพิบัติกับตัวเอง

ปราชญ์เมธีทุกท่าน ถนอมตนเอง เราจากไปแล้ว ขอลา.

บทความที่ได้รับความนิยม