ในสมัยพุทธกาล ครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์อยู่ พระองค์ได้ทรงเทศนาสั่งสอนถึงเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างลึกซึ้ง นำพาให้ทั้งมนุษย์และสรรพสัตว์ใหญ่น้อยหยุดเข่นฆ่า เลิกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน พุทธบริษัททั้งหลายต่างหันมาอนุเคราะห์เกื่อกูลต่อเวไนยสัตว์ด้วยความมีเมตตา ดังมีเรื่องราวปรากฏจารึกไว้ในพระสูตรบทหนึ่งว่า...
ในกาลที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนีได้อุบัติแล้ว ณ ชมพูทวีป คราวนั้นบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปพบเห็นแอ่งน้ำซึ่งกำลังจะเหือดแห้งเนื่องจากถูกแสงตะวันอันร้อนแรงแผดเผา ปู ปลา กุ้ง หอย นับหมื่นชีวิตดิ้นรนกระเสือกกระสนรอคอยความตายอย่างสิ้นหวัง
บัณฑิตหนุ่มผู้มีใจเปี่ยมด้วยเมตตารู้สึกเวทนายิ่งนักจึงรีบกลับไปขอยืมถุงบรรจุน้ำจากพ่อค้าในเมืองแล้วเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อกราบทูลขอยืมช้างจากพระองค์ ครั้นพระราชาผู้เป็นใหญ่ทรงทราบถึงกุศลเจตนานั้นแล้ว ก็มีพระทัยปลาบปลื้มปิติยินดียิ่งนัก พร้อมทั้งพระราชทานช้างจำนวน 20 เชือก แก่บัณฑิตหนุ่มนั้น ชาวเมืองที่เห็นขบวนช้างบรรทุกถุงน้ำผ่านมา พอทราบเรื่องก็มีใจออกติดตามไปด้วย ครั้นถึงยังจุดหมายจึงช่วยกันขนถุงน้ำเทลงในแอ่งจนเต็มเปี่ยม สรรพสัตว์นับพันนับหมื่นจึงได้ฟื้นคืนชีวิต บรรดาฝูงมัจฉา ปู กุ้ง หอย ฯลฯ ต่างแหวกว่ายในสายน้ำกันอย่างร่าเริง
ครั้นใกล้ตะวันเย็น ณ ริมแอ่งน้ำ ขณะนั้นเองเป็นเวลาที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึง บัณฑิตหนุ่มและสาธุชนพุทธบริษัทจึงพร้อมใจกันกราบอาราธนาทูลขอพระองค์ ให้แสดงพระธรรมเทศนาเพื่อยังศรัทธาปสาทาให้เกิดแก่เวไนยสัตว์ทั้งหลาย
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงมีพระเมตตาแสดงพระธรรมเทศนา พรรณนาถึงอานิสงส์แห่งเมตตาจิตโดยลึกซึ้งแยบยลยิ่ง เมื่อถึงที่สุดแห่งพระธรรมเทศนาแล้ว มหาชนทั้งหลายต่างก็บังเกิดความปิติอิ่มเอิบขึ้นในดวงใจไม่ได้ผิดแผกจากฝูงปลาซึ่งเข้ามาร่วมชุมนุมสดับฟังอยู่ด้วยอย่างใกล้ชิด ด้วยพลานุภาพแห่งสัจธรรมซึ่งองค์พระบรมศาสดาแสดงแล้วเป็นที่น่าอัศจรรย์ บรรดาวิญญูชนผู้มีจิตอันประณีตอ่อนโยนทั้งหลาย ก็บังเกิดความรู้แจ้งในหลักสัจจธรรม แม้เหล่าฝูงสัตว์ทั้งหลายที่ได้ยินพระธรรมอันแช่มชื่นนั้นแล้ว เมื่อหมดสิ้นอายุขัยก็ได้ไปเกิดอยู่ในสุคติภพโดยถ้วนหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น